'เขาซก' สหกรณ์ยางพาราต้นแบบ ตัดวงจรพ่อค้า-เร่งเยียวยาสมาชิก
ทำมาหากิน : 'เขาซก' สหกรณ์ยางพาราต้นแบบ ตัดวงจรพ่อค้า-เร่งเยียวยาสมาชิก : โดย...สุรัตน์ อัตตะ แม้อดีตเต็มไปด้วยไร่อ้อยและมันสำปะหลัง แต่ปัจจุบันกลายเป็นพื้นที่ปลูกยางพาราแหล่งใหญ่ที่สุดในอ.หนองใหญ่ จ.ชลบุรี สำหรับต.เขาซก จนกระทั่งมีการรวมกลุ่มตั้งเป็นสหกรณ์กองทุนชาวสวนยางพาราบ้านเขาซก จำกัด เพื่อบริหารจัดการผลผลิตยางพาราโดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง จากความสำเร็จดังกล่าวทำให้กลายเป็นสหกรณ์ดีเด่น ได้รับรางวัลสหกรณ์คุณค่าแห่งปี 2556 จากคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์อีกด้วย
ธวัชชัย สุระประเสริฐ ผู้จัดการฝ่ายขาย สหกรณ์กองทุนชาวสวนยางพาราบ้านเขาซก จำกัด กล่าวถึงความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจสหกรณ์แบบครบวงจรในปัจจุบัน โดยระบุว่ามาจากการช่วยเหลือจากกรมส่งเสริมสหกรณ์ โดยได้รับงบประมาณมาสร้างโรงงานผลิตยางแท่ง STR20 จำนวน 99 ล้านบาทเมื่อปี 2537 หรือ 10 ปีที่แล้ว ทำให้มีผลกำไรคุ้มกับที่ลงทุนไป จนปัจจุบันมีการดำเนินการแบบครบวงจรทั้งการรับซื้อและรวบรวมทั้งยางแผ่นดิบ น้ำยางสดและยางก้นถ้วยจากสมาชิก
"ในส่วนของยางแผ่นเรามีการเปิดประมูลทุกอาทิตย์ ส่วนน้ำยางสดก็รวบรวมส่งโรงงาน ส่วนยางก้นถ้วยเราก็เอามาผลิตเป็นยางแท่ง STR 20 ส่งออกทั้งในและต่างประเทศ สำหรับต่างประเทศตลาดหลักคือจีน ขณะนี้ส่งเดือนละประมาณ 300-400 ตัน"
ขณะที่ โอภาศ กลั่นบุศย์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์กล่าวถึงมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางพาราระหว่างนำคณะสื่อมวลชนลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานของสหกรณ์กองทุนชาวสวนยางบ้านเขาซก จำกัด ต.เขาซก อ.หนองใหญ่ จ.ชลบุรีว่า กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้สนองมาตรการความช่วยเหลือตามนโยบายรัฐบาลและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ใน 2 โครงการ ประกอบด้วย โครงการสนับสนุนสินเชื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนแก่สถาบันเกษตรกรเพื่อรวบรวมยาง ภายใต้แนวทางพัฒนายางพาราทั้งระบบในวงเงินสินเชื่อ 10,000 ล้านบาทและโครงการสนับสนุนสินเชื่อสถาบันเกษตรกรแปรรูปยางพาราในวงเงินสินเชื่ออีก 5,000 ล้านบาท
"โครงการแรกเป็นการสนับสนุนสินเชื่อให้แก่สหกรณ์ทุกประเภทกลุ่มเกษตรกรและวิสาหกิจชุมชนที่มีการประกอบธุรกิจเกี่ยวกับยางพารานำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการรวบรวมหรือรับซื้อยางพาราจากเกษตรกรชาวสวนยาง ซึ่งขณะนี้มีสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรประสงค์ยื่นขอกู้ตามโครงการแล้ว 527 แห่ง เป็นเงิน 5,078.15 ล้าน และได้รับอนุมัติวงเงินกู้ยืมจากธ.ก.ส.แล้วจำนวน 69 แห่งเป็นเงิน 959.10 ล้าน ส่วนที่เบิกเงินกู้จริงจากธ.ก.ส.แล้ว 52 แห่งเป็นเงิน 376.37 ล้าน"
อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์กล่าวต่อว่า ส่วนโครงการสนับสนุนสินเชื่อสถาบันเกษตรกรแปรรูปยางพารา วงเงิน 5,000 ล้านบาทนั้นเพื่อสนับสนุนสินเชื่อเพื่อการลงทุนแก่สถาบันเกษตรกรนำไปขยายกำลังการผลิตและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตในโรงงานแปรรูปยางที่จัดสร้างไว้แล้วหรือลงทุนจัดสร้างโรงงานใหม่ในการแปรรูปยางพาราเพิ่มมูลค่าและใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนแก่สถาบันเกษตรกรในการแปรรูปยางพารา
"ขณะนี้มีสหกรณ์หรือกลุ่มเกษตรกรได้ยื่นประสงค์ขอกู้แล้วในเบื้องต้น 245 แห่งและมีประสงค์จะยื่นขอกู้ตามโครงการจำนวน 200 แห่งเป็นเงิน 4,421.62 ล้านบาท ซึ่งประโยชน์ที่จะได้รับคาดว่าสามารถขยายกำลังการผลิตและเพิ่มประสิทธิภาพในการแปรรูปยางพาราทำให้เกษตรกรชาวสวนยางสามารถเฉลี่ยรายได้คืนจากผลกำไรในธุรกิจให้แก่สมาชิกเพิ่มขึ้น"
ส่วนการแก้ปัญหาในระยะยาวนั้น โอภาศย้ำว่าจะวางแผนรณรงค์ปลุกจิตสำนึกให้สมาชิกมีส่วนร่วมในการทำธุรกิจกับสหกรณ์เพิ่มขึ้น เนื่องจากมีสมาชิกบางส่วนไม่นำผลผลิตมาขายให้กับสหกรณ์ ทำให้ปริมาณวัตถุดิบที่นำมาแปรรูปยางมีไม่เพียงพอ นอกจากนี้ยังสนับสนุนและพัฒนาธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องหรือต่อยอดจากการดำเนินงานเดิมของแต่ละสหกรณ์หรือกลุ่มเกษตรกรเพื่อให้เกิดการพัฒนาธุรกิจตามศักยภาพของสหกรณ์แต่ละแห่ง เช่น เกิดการพัฒนาธุรกิจการรวบรวมน้ำยาง หรือย่างแผ่นสู่การแปรรูปเป็นยางรมควันแล้วพัฒนาไปดำเนินธุรกิจเป็นยางแท่งหรือยางคอมปาวต่อไป
นับเป็นตัวอย่างความสำเร็จจากมาตรการช่วยเหลือของกรมส่งเสริมสหกรณ์เพื่อเยียวยาสมาชิกสหกรณ์ชาวสวนยางพาราในช่วงวิกฤติปัญหาราคายางตกต่ำในขณะนี้
ที่มา : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก (วันที่ 4 พฤศจิกายน 2557)
