ผู้เขียน หัวข้อ: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ข่าวหุ้น-การเงิน 19 กันยายน พ.ศ. 2563  (อ่าน 726 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 82025
    • ดูรายละเอียด

***ดาวโจนส์ร่วงกว่า 200 จุด-หุ้นเทคโนโลยีฉุดตลาด

19 กันยายน 2563
ดัชนีดาวโจนส์ ปิดตลาดวันศุกร์ (18ก.ย.)ปรับตัวร่วงลงกว่า 200 จุด โดยปรับตัวลงต่อเนื่องจากวานนี้ ขณะที่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีฉุดตลาด
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ร่วงลง 244.56 จุด หรือ 0.9% ปิดที่ 27,657.42 ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ร่วงลง 1.1% ปิดที่ 3,319.47 ดัชนีแนสแด็กลบ 1.1% ปิดที่ 10,793.28 จุด

อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาการปรับตัวทั้งสัปดาห์ คาดว่าดัชนีดาวโจนส์สามารถดีดตัวขึ้น หลังจากร่วงลงติดต่อกัน 2 สัปดาห์

ทั้งนี้ ราคาหุ้นเฟซบุ๊คดีดตัวขึ้น 0.8% ในวันนี้ แต่หุ้นอื่นๆในกลุ่มเทคโนโลยีต่างปรับตัวลง โดยราคาหุ้นออราเคิลร่วงลง 0.7% หลังจากที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐแถลงว่า กระทรวงจะระงับการทำธุรกรรมใดๆของภาคธุรกิจสหรัฐที่มีต่อวีแชทและติ๊กต็อกตั้งแต่วันอาทิตย์นี้(20ก.ย.)

แถลงการณ์ของกระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า เริ่มตั้งแต่วันที่ 20 ก.ย. รัฐบาลสหรัฐจะบล็อกการดาวน์โหลดวีแชท และติ๊กต็อก ซึ่งหมายความว่าแอ๊ปเปิ้ลและกูเกิลจะต้องลบวีแชทและติ๊กต็อก ออกจากแอ๊ปสโตร์ และบริษัทสหรัฐจะไม่สามารถให้บริการโอนเงิน หรือดำเนินการชำระเงินผ่านทางวีแชท

แหล่งข่าวระบุวานนี้ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เตรียมตัดสินใจว่าจะให้การอนุมัติต่อข้อเสนอของออราเคิลในการซื้อกิจการติ๊กต็อกในสหรัฐหรือไม่ ภายในเวลา 24-36 ชั่วโมง โดยขณะนี้ ปธน.ทรัมป์ได้หารือกับสมาชิกคณะรัฐมนตรี รวมทั้งบรรดาที่ปรึกษาแล้ว ก่อนที่จะทำการตัดสินใจขั้นสุดท้าย

ที่ผ่านมา ปธน.ทรัมป์แสดงความไม่พอใจต่อการที่ไบต์แดนซ์เป็นผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่ในการดำเนินกิจการติ๊กต็อกในสหรัฐ

***ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดบวก 12.2 ดอลล์ กังวลเศรษฐกิจหนุนแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย

ข่าวต่างประเทศ Saturday September 19, 2020 07:00 ?สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (18 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงช่วยหนุนราคาทองด้วย

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 12.2 ดอลลาร์ หรือ 0.63% ปิดที่ 1,962.1 ดอลลาร์/ออนซ์ และในรอบสัปดาห์นี้ สัญญาทองคำปรับตัวขึ้น 0.7%

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 2.9 เซนต์ หรือ 0.11% ปิดที่ 27.129 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 7.6 ดอลลาร์ หรือ 0.82% ปิดที่ 938.5 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 45.50 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 2,380.80 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาทองคำปิดบวก เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจากผลกระทบของโรคโควิด-19 ขณะที่การร่วงลงของตลาดหุ้นทั่วโลกและการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ช่วยเพิ่มความน่าดึงดูดของทอง โดยดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงทำให้สัญญาทองมีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น

ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลบ 0.05% สู่ระดับ 92.9273 เมื่อคืนนี้

นักวิเคราะห์ตลาดส่วนใหญ่มองว่า การเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจเมื่อคืนนี้ยังคงบ่งชี้ว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวลง

ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐที่เปิดเผยเมื่อคืนนี้ได้แก่ Conference Board เปิดเผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ Leading Economic Index (LEI) ปรับตัวขึ้นน้อยกว่าคาด 1.2% ในเดือนส.ค. หลังจากพุ่งขึ้น 2% ในเดือนก.ค.และ 3.1% ในเดือนมิ.ย., กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขขาดดุลบัญชีเดินสะพัดของสหรัฐพุ่งขึ้น 52.9% สู่ระดับ 1.705 แสนล้านดอลลาร์ในไตรมาส 2/2563 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 12 ปี หลังจากขาดดุล 1.115 แสนล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรก และผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 78.9 ในเดือนก.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 75.0 จากระดับ 74.1 ในเดือนส.ค.

***น้ำมัน WTI ปิดบวก 14 เซนต์ หลังโอเปกพลัสยันลดการผลิตตามข้อตกลง

ข่าวต่างประเทศ Saturday September 19, 2020 06:30 ?สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (18 ก.ย.) หลังจากที่ประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ยืนยันที่จะปฏิบัติตามข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิต

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 14 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 41.11 ดอลลาร์/บาร์เรล และปรับตัวขึ้น 10.1% ในรอบสัปดาห์นี้

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 15 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 43.15 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่เพิ่มขึ้น 8.3% ในรอบสัปดาห์นี้

ตลาดน้ำมันดิบได้แรงหนุน หลังจากคณะกรรมการตรวจสอบการปฏิบัติตามข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิต (JMMC) ของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือ "โอเปกพลัส" ได้ประชุมร่วมกันเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา และที่ประชุมมีมติเห็นพ้องที่จะให้ความสำคัญในการปฏิบัติตามข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิต และให้คำมั่นว่าจะดำเนินการขั้นเด็ดขาดกับประเทศสมาชิกที่ไม่ปฏิบัติตามข้อตกลง

ในการประชุมโอเปกพลัสดังกล่าว ที่ประชุมไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิต 7.7 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งมติดังกล่าวมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนส.ค. ไปจนถึงสิ้นปี 2563

นายอเล็กซานเดอร์ โนวัค รัฐมนตรีพลังงานรัสเซียกล่าวเปิดการประชุมออนไลน์ของ JMMC โดยเรียกร้องให้ประเทศสมาชิกปฏิบัติตามข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตอย่างเคร่งครัด พร้อมกับกล่าวว่า คณะกรรมการควรหารือกันเกี่ยวกับผลกระทบที่ตลาดน้ำมันได้รับจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

รายงานระบุว่า กลุ่มโอเปกพลัสมีแผนที่จะจัดการประชุมรอบพิเศษอีกครั้งในเดือนต.ค.นี้ หากราคาน้ำมันยังคงปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้ปัจจัยหนุนจากการที่โกลด์แมน แซคส์คาดว่า ตลาดน้ำมันจะประสบภาวะขาดแคลนน้ำมันราว 3 ล้านบาร์เรล/วันในไตรมาส 4/2563 และได้ปรับเพิ่มเป้าหมายราคาน้ำมันดิบเบรนท์ขึ้นสู่ระดับ 49 ดอลลาร์ในช่วงปลายปีนี้ และ 65 ดอลลาร์ภายในไตรมาส 3 ของปีหน้า