ผู้เขียน หัวข้อ: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ข่าวหุ้น-การเงิน 21 ตุลาคม 2564  (อ่าน 450 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 82024
    • ดูรายละเอียด
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดบวก 152.03 จุด รับผลประกอบการสดใส-บิตคอยน์พุ่ง
          สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 ต.ค. 2564)--ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เมื่อคืนนี้ (20 ต.ค.) ขณะที่ดัชนี S&P500 ทำสถิติปิดในแดนบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 6 เนื่องจากนักลงทุนขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน รวมทั้งการพุ่งขึ้นของราคาบิตคอยน์
          ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,609.34 จุด เพิ่มขึ้น 152.03 จุด หรือ +0.43%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,536.19 จุด เพิ่มขึ้น 16.56 จุด หรือ +0.37% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,121.68 จุด ลดลง 7.41 จุด หรือ -0.05%
          ดัชนีดาวโจนส์ทะยานขึ้นทำนิวไฮในระหว่างวันที่ระดับ 35,669.69 จุด ขานรับผลประกอบการที่สดใสของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ ซึ่งรวมถึงบริษัทเน็ตฟลิกซ์ที่เปิดเผยจำนวนผู้ใช้บริการรายใหม่ในไตรมาส 3 เพิ่มขึ้น 4.4 ล้านราย สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 3.5 ล้านราย โดยได้แรงหนุนจากซีรี่ส์ยอดนิยมเรื่อง  Squid Game 
          หุ้น 8 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปิดในแดนบวก นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคพุ่งขึ้น 1.56% และดัชนีหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ดีดตัวขึ้น 1.55% ทั้งนี้ หุ้นพีจีแอนด์อี คอร์ปอเรชั่น พุ่งขึ้น 2.95% หุ้นพอร์ทแลนด์ เจเนอรัล อิเล็กทริก เพิ่มขึ้น 1.22% หุ้นอเมริกัน เรียลตี้ อินเวสเตอร์ส ทะยานขึ้น 4.96% หุ้นโจนส์ แลง ลาซาลล์ ปรับตัวขึ้น 0.99%
          หุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ได้รับแรงซื้ออย่างต่อเนื่อง โดยหุ้นแอ๊บบอต ลาบอแรตอรีส พุ่งขึ้น 3.27% หุ้นเมอร์ค แอนด์ โค ปรับตัวขึ้น 2% หุ้นไฟเซอร์ บวก 1.69% หุ้นอิไล ลิลลี่ (Eli Lilly) เพิ่มขึ้น 0.61%
          หุ้นกลุ่มธุรกิจบล็อกเชนปรับตัวขึ้น หลังราคาบิตคอยน์พุ่งขึ้นทะลุระดับ 66,000 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ ขานรับความเห็นของนายพอล ทิวดอร์ โจนส์ ผู้จัดการกองทุนเฮดจ์ฟันด์รายใหญ่ซึ่งระบุว่า เขาชื่นชอบบิตคอยน์มากกว่าทองคำในฐานะเครื่องมือประกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ ทั้งนี้ หุ้น Grayscale Bitcoin Trust พุ่งขึ้น 6% หุ้น Coinbase พุ่งขึ้น 2.97% หุ้น Silvergate Capital ทะยานขึ้น 7.75%
          หุ้นฟอร์ด มอเตอร์ พุ่งขึ้น 4.02% หลังจากนักวิเคราะห์ของเครดิตสวิสได้แสดงมุมมองบวกเกี่ยวกับแนวโน้มผลประกอบการของฟอร์ด มอเตอร์ โดยฟอร์ดมีกำหนดเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 3 ในสัปดาห์หน้า
          อย่างไรก็ดี หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลงเนื่องจากแรงขายทำกำไร และเป็นปัจจัยฉุดดัชนี Nasdaq ปิดอ่อนแรงลงเมื่อคืนนี้ โดยหุ้นอัลฟาเบท ร่วงลง 1.02% หุ้นไมโครซอฟท์ ลดลง 0.27% หุ้นแอมะซอน ปรับตัวลง 0.84% ส่วนหุ้น Nvidia ลดลง 0.84% เช่นกัน
          หุ้นเพย์พาล โฮลดิ้งส์ (Paypal Holdings) ร่วงลง 4.91% หลังมีรายงานว่า เพย์พาลจะเข้าซื้อกิจการพินเทอเรสต์ (Pinterest) ซึ่งเป็นธุรกิจโซเชียลมีเดีย อย่างไรก็ดี ข่าวดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นพินเทอเรสต์พุ่งขึ้น 12.7%
          นักลงทุนยังคงจับตาผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน ขณะที่ข้อมูลจาก FactSet ระบุว่า บริษัทจำนวน 82% ในดัชนี S&P 500 ที่ได้รายงานผลประกอบการในไตรมาส 3 แล้ว ต่างก็มีกำไรสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้
          นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึง จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีการผลิตเดือนต.ค.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย, ยอดขายบ้านมือสองเดือนก.ย., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้นเดือนต.ค.จากมาร์กิต และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือนต.ค.จากมาร์กิต
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

ภาวะตลาดน้ำมัน: น้ำมัน WTI ปิดบวก 91 เซนต์ รับสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง
          สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 ต.ค. 2564)--สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 5 เมื่อคืนนี้ (20 ต.ค.) หลังสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น ซึ่งบ่งชี้ว่าความต้องการใช้น้ำมันในสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง
          ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 91 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 83.87 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 13 ต.ค. 2557
          สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 74 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 85.82 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 3 ต.ค. 2561
          สัญญาน้ำมันดิบพุ่งขึ้น หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 400,000 บาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2 ล้านบาร์เรล
          รายงานของ EIA ยังระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคูชิง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐ ลดลง 2.4 ล้านบาร์เรล
          ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 5.4 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 2.2 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 3.9 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 2.4 ล้านบาร์เรล
          นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้แรงหนุนจากหลากหลายปัจจัย ซึ่งรวมถึงความต้องการใช้พลังงานของจีน ท่ามกลางสภาพอากาศหนาวเย็น, การที่ผู้ผลิตพลังงานไฟฟ้าหันมาใช้น้ำมันดิบและน้ำมันดีเซล หลังการพุ่งขึ้นของราคาถ่านหินและก๊าซธรรมชาติ และอุปสงค์น้ำมันที่พุ่งขึ้นจากการเปิดเศรษฐกิจของหลายประเทศ
          นักลงทุนจับตาการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ในวันที่ 4 พ.ย.นี้ เพื่อกำหนดนโยบายการผลิตน้ำมันสำหรับเดือนธ.ค.
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--


ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดบวก $14.4 รับดอลล์อ่อน-แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย
          สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 ต.ค. 2564)--สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (20 ต.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ นอกจากนี้ ความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อและปัญหาห่วงโซ่อุปทานที่เกิดขึ้นทั่วโลกยังส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
          ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 14.4 ดอลลาร์ หรือ 0.81% ปิดที่ระดับ 1,784.9 ดอลลาร์/ออนซ์       
          สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 56.2 เซนต์ หรือ 2.35% ปิดที่ 24.445 ดอลลาร์/ออนซ์
          สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 5.2 ดอลลาร์ หรือ 0.5% ปิดที่ 1,052.3 ดอลลาร์/ออนซ์
          สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 18.50 ดอลลาร์ หรือ 0.9% ปิดที่ 2,082.40 ดอลลาร์/ออนซ์
          ภาวะการซื้อขายในตลาดทองคำได้รับปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ เนื่องจากเมื่อดอลลาร์อ่อนค่าจะทำให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐนั้น มีราคาถูกลงและมีความน่าดึงดูดมากขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่น
          ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.18% แตะที่ 93.5626 เมื่อคืนนี้
          นักวิเคราะห์จากบริษัท RJO Futures กล่าวว่า ความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อและปัญหาห่วงโซ่อุปทานได้ผลักดันให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย พร้อมกับคาดการณ์ว่าปัจจัยดังกล่าวจะเป็นแรงหนุนราคาทองพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง
          ขณะที่นักวิเคราะห์จากบริษัท StoneX คาดว่า ราคาทองมีแนวโน้มพุ่งทะลุระดับ 1,800 ดอลลาร์ เนื่องจากความต้องการทองคำที่เพิ่มขึ้นทั้งในอินเดียและจีน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--