***ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดทรงตัว นลท.หวังเฟดลดดอกเบี้ยสัปดาห์หน้า
ข่าวต่างประเทศ Saturday December 6, 2025 07:21 ?สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดทรงตัวในวันศุกร์ (5 ธ.ค.) ท่ามกลางความคาดหวังที่เพิ่มขึ้นว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในสัปดาห์หน้า ซึ่งช่วยหนุนบรรยากาศการซื้อขายในตลาด
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. ทรงตัวที่ระดับ 4,243.00 ดอลลาร์/ออนซ์
นักวิเคราะห์รายหนึ่งกล่าวว่า ตลาดเริ่มมั่นใจมากขึ้นว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย และจากปัจจัยนี้ทำให้ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเล็กน้อย ซึ่งเป็นผลบวกต่อราคาทองคำ
ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ระบุว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐานเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนก.ย. และอัตราการเพิ่มขึ้นรายปีอยู่ที่ 2.8% ชะลอลงจากระดับ 2.9% ในเดือนส.ค.
ตัวเลขนี้ออกมาตามหลังข้อมูลการจ้างงานภาคเอกชนที่ลดลงแรงที่สุดในรอบกว่า 2 ปีครึ่งในเดือนที่ผ่านมา
ถ้อยแถลงเชิงผ่อนคลายจากเจ้าหน้าที่เฟดหลายรายหนุนความคาดหวังเกี่ยวกับการผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติม
เครื่องมือ FedWatch ของ CME บ่งชี้ความน่าจะเป็น 87.2% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวันที่ 9-10 ธ.ค.นี้
นักวิเคราะห์จาก Allegiance Gold ระบุว่า ราคาทองคำมีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 4,200-4,500 ดอลลาร์สหรัฐในปีนี้ และ 4,500-5,000 ดอลลาร์สหรัฐในปีหน้า โดยจะขึ้นอยู่กับการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยของเฟด
ขณะเดียวกัน ความต้องการทองคำแท่งในอินเดียและจีนชะลอลงในสัปดาห์นี้ เนื่องจากผู้ซื้อรอการย่อตัวของราคาทอง
***ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ (5 ธ.ค.) หลังการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดยังคงหนุนความคาดหวังว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์หน้า
ข่าวต่างประเทศ Saturday December 6, 2025 06:32 ?สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ (5 ธ.ค.) หลังการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดยังคงหนุนความคาดหวังว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์หน้า
ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 47,954.99 จุด เพิ่มขึ้น 104.05 จุด หรือ +0.22%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,870.40 จุด เพิ่มขึ้น 13.28 จุด หรือ +0.19% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 23,578.13 จุด เพิ่มขึ้น 72.99 จุด หรือ +0.31%
ในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 0.5%, ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 0.31% และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 0.91% โดยดัชนีทั้งสามตัวปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่สอง
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่า การใช้จ่ายของผู้บริโภคซึ่งคิดเป็นมากกว่า 2 ใน 3 ของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ เพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนก.ย. สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ หลังจากเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนส.ค.
นอกจากนี้ ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนก.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนส.ค. และเมื่อเทียบรายปี ดัชนี PCE เพิ่มขึ้น 2.8% ในเดือนก.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 2.7% ในเดือนส.ค. ซึ่งทั้งสองตัวเลขนั้นสอดคล้องกับการคาดการณ์
ส่วนรายงานจากมหาวิทยาลัยมิชิแกนแสดงให้เห็นว่า ความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้นในช่วงต้นเดือนธ.ค. อยู่ที่ 53.3 สูงกว่าการคาดการณ์ที่ระดับ 52
ตลาดกำลังประเมินความน่าจะเป็นของการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเฟดเดือนนี้ที่ 87.2% ตามเครื่องมือ CME FedWatch แม้คาดว่าจะมีผู้คัดค้านจำนวนมากเนื่องจากความกังวลเรื่องเงินเฟ้อที่ยังสูง
นักวิเคราะห์รายหนึ่งกล่าวว่า นักลงทุนกำลังจับตาผลการประชุมของเฟดในวันพุธหน้า ซึ่งปัจจุบันมีความเป็นไปได้สูงที่เฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% และหลังการประชุม คำถามคือพวกเขาจะสื่อสารอย่างไรเกี่ยวกับนโยบายในอนาคต
หุ้น Warner Bros Discovery พุ่งขึ้น 6.3% หลัง Netflix ตกลงซื้อธุรกิจทีวี สตูดิโอภาพยนตร์ และสตรีมมิงของ Warner Bros ด้วยมูลค่า 7.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยปิดสงครามการประมูลที่กินเวลาหลายสัปดาห์
หุ้น Netflix ปิดร่วงลง 2.9% ส่วนหุ้น Paramount Skydance หนึ่งในผู้ประมูลรายอื่น ร่วงลง 9.8%
หุ้นกลุ่มบริการสื่อสารเป็นกลุ่มที่ทำผลงานดีที่สุดใน 11 กลุ่มของดัชนี S&P500 โดยปรับตัวขึ้นเกือบ 1% และปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ดัชนีหุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์ของ S&P500 ลดลง หลังที่ปรึกษาวัคซีนกลุ่มหนึ่งยกเลิกคำแนะนำเดิมที่ให้เด็กทุกคนในสหรัฐฯ รับวัคซีนตับอักเสบบีตั้งแต่แรกเกิด
หุ้น Ulta Beauty พุ่งขึ้น 12.7% หลังจากผู้ค้าปลีกสินค้าเสริมความงามรายนี้ปรับเพิ่มคาดการณ์ยอดขายและกำไรประจำปี
***ภาวะตลาดน้ำมันน้ำมัน WTI ปิดบวก 41 เซนต์ ขานรับคาดการณ์เฟดลดดอกเบี้ย
ข่าวต่างประเทศ Saturday December 6, 2025 06:57 ?สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ (5 ธ.ค.) แตะระดับสูงสุดในรอบสองสัปดาห์ เนื่องจากนักลงทุนมีความคาดหวังที่เพิ่มขึ้นว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในสัปดาห์หน้า ซึ่งอาจช่วยกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจและความต้องการพลังงาน รวมถึงความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ที่อาจจำกัดอุปทานจากรัสเซียและเวเนซุเอลา
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 41 เซนต์ หรือ 0.69% ปิดที่ 60.08 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 49 เซนต์ หรือ 0.77% ปิดที่ 63.75 ดอลลาร์/บาร์เรล
ทั้งสองสัญญาปิดตลาดที่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 18 พ.ย. และในรอบสัปดาห์นี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้นราว 3% และสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวขึ้นประมาณ 1% ทำให้ทั้งสองสัญญาบวกขึ้นต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่สอง
นักลงทุนประเมินรายงานเงินเฟ้อสหรัฐฯ และคาดว่าเฟดอาจลดดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 9-10 ธ.ค.นี้
การใช้จ่ายของผู้บริโภคในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นปานกลางในเดือนก.ย. หลังจากเติบโตแข็งแกร่งต่อเนื่องสามเดือน ซึ่งสะท้อนถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจในไตรมาส 3 เนื่องจากตลาดแรงงานที่อ่อนแอและค่าครองชีพที่สูงขึ้นจำกัดอุปสงค์ของผู้บริโภค
นักลงทุนประเมินความน่าจะเป็นในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด 0.25% ในสัปดาห์หน้าที่ 87% ตามเครื่องมือ CME FedWatch
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนและสหรัฐฯ ได้มีการประชุมทางไกลในวันศุกร์เพื่อหารือด้านการค้า รวมถึงความพยายามดำเนินการตามข้อตกลงในสงครามการค้าระหว่างกัน
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวว่า เขาจะพบปะกับผู้นำเม็กซิโกและแคนาดาเพื่อหารือประเด็นการค้าในวันศุกร์ หลังจากทั้งสามชาติมาประชุมกันที่กรุงวอชิงตันเพื่อจับสลากแบ่งสายฟุตบอลโลก 2026 โดยการเจรจาใด ๆ ที่อาจลดความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับชาติอื่น ๆ อาจช่วยกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจและความต้องการพลังงาน
นักลงทุนยังจับตาข่าวจากรัสเซียและเวเนซุเอลาเพื่อประเมินว่าอุปทานน้ำมันจากสองสมาชิกโอเปกพลัสที่ถูกคว่ำบาตรจะเพิ่มขึ้นหรือลดลงในอนาคต
ความล้มเหลวในการเจรจาของสหรัฐฯ ในกรุงมอสโกเพื่อหาข้อตกลงสำคัญเกี่ยวกับสงครามยูเครน ส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นในสัปดาห์นี้
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ความล้มเหลวในการบรรลุความคืบหน้าในการเจรจาสันติภาพยูเครนเป็นปัจจัยบวกต่อราคาน้ำมัน แต่ในขณะเดียวกัน การผลิตน้ำมันที่แข็งแกร่งของกลุ่มโอเปกเป็นปัจจัยกดดันตลาด
กลุ่มประเทศ G7 และสหภาพยุโรปกำลังหารือเพื่อแทนที่เพดานราคาส่งออกน้ำมันรัสเซียด้วยการห้ามให้บริการทางทะเลทั้งหมด เพื่อลดรายได้จากน้ำมันที่ช่วยสนับสนุนการทำสงครามของรัสเซียในยูเครน
กลุ่มโอเปกพลัสประกอบด้วยประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและพันธมิตร เช่น รัสเซีย โดยข้อตกลงใด ๆ ที่อาจยกเลิกการคว่ำบาตรรัสเซียซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันดิบใหญ่เป็นอันดับสองของโลกรองจากสหรัฐฯ อาจเพิ่มปริมาณน้ำมันที่มีอยู่ในตลาดโลก
ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินแห่งรัสเซียเสนอจัดหาน้ำมันให้กับอินเดีย โดยปูตินและนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดีของอินเดียได้ตกลงกันที่จะขยายความร่วมมือด้านการค้าและความมั่นคง
บริษัทกลั่นน้ำมันของรัฐ Indian Oil Corp และ Bharat Petroleum Corp สั่งซื้อน้ำมันรัสเซียสำหรับจัดส่งในเดือนม.ค. จากผู้ผลิตที่ไม่ถูกคว่ำบาตร
ศูนย์ฉุกเฉินท้องถิ่นรายงานว่า การโจมตีด้วยโดรนของยูเครนทำให้เกิดไฟไหม้ที่ท่าเรือเทมริค ริมทะเลอาซอฟของรัสเซีย ท่าเรือนี้รองรับการขนส่งก๊าซปิโตรเลียมเหลว ผลิตภัณฑ์น้ำมัน และปิโตรเคมี รวมถึงธัญพืชและสินค้าโภคภัณฑ์อื่น ๆ
ตลาดยังเตรียมรับมือกับความเป็นไปได้ที่สหรัฐฯ จะเข้าแทรกแซงทางทหารในเวเนซุเอลา หลังจากทรัมป์ย้ำว่ารัฐบาลสหรัฐฯ จะเริ่มดำเนินการเพื่อหยุดยั้งผู้ค้ายาเสพติดเวเนซุเอลาบนบกในเร็ว ๆ นี้
Rystad Energy ระบุในรายงานว่า การเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจส่งผลต่อการผลิตน้ำมันดิบของเวเนซุเอลา 1.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งส่วนใหญ่ส่งไปยังจีน