ผู้เขียน หัวข้อ: 8.30 น. ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และ ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนพ.ย. วันนี้  (อ่าน 59 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 90445
    • ดูรายละเอียด
**จีนเผย PPI เดือนพ.ย. หดตัว 2.2% รุนแรงกว่าคาดการณ์

ข่าวต่างประเทศ Wednesday December 10, 2025 09:31 ?สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สำนักงานสถิติจีน (NBS) เปิดเผยในวันนี้ (10 ธ.ค.) ว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของจีน ซึ่งเป็นมาตรวัดต้นทุนสินค้าจากหน้าโรงงาน ปรับตัวลดลง 2.2% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบเป็นรายปี หนักที่คาดการณ์ไว้ว่าจะลดลง 2% ทั้งยังลดลงต่อเนื่องหลังจากที่ลดลง 2.1% ในเดือนต.ค.

ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนให้เห็นความท้าทายสำคัญสำหรับผู้กำหนดนโยบายของจีน ในการฟื้นฟูอุปสงค์ภายในประเทศ ท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้าที่ยังคงยืดเยื้อ

นักเศรษฐศาสตร์เตือนว่า แรงกดดันจากภาวะเงินฝืดในระบบเศรษฐกิจจีนจะยังคงอยู่ต่อเนื่องไปจนถึงปีหน้า ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ ๆ เพื่อผลักดันดีมานด์ โดยคณะกรรมการถาวรประจำกรมการเมือง (โปลิตบูโร) ของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน เน้นย้ำถึงการกระตุ้นอุปสงค์ภายในประเทศในปี 2568 แต่ก็ส่งสัญญาณถึงการระมัดระวังในการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

ท่าทีดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าทางการจีนกำลังสร้างสมดุลระหว่างข้อเรียกร้องให้ดำเนินนโยบายการคลังและการเงินที่ผ่อนคลาย กับความจำเป็นในการบริหารจัดการความเสี่ยงทางการเงิน

**จีนเผย CPI เดือนพ.ย. ขยายตัว 0.7% ทำสถิติสูงสุดในรอบเกือบ 2 ปี

ข่าวต่างประเทศ Wednesday December 10, 2025 09:18 ?สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สำนักงานสถิติจีน (NBS) เปิดเผยในวันนี้ (10 ธ.ค.) ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของจีน ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อ ขยายตัว 0.7% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบเป็นรายปี ทำสถิติสูงสุดในรอบเกือบสองปี หรือนับตั้งแต่เดือนก.พ. ปีที่แล้ว เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากเดือนต.ค.ที่ขยับขึ้น 0.2% และเป็นไปตามการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์

นักเศรษฐศาสตร์เตือนว่า แรงกดดันจากภาวะเงินฝืดในระบบเศรษฐกิจจีนจะยังคงอยู่ต่อเนื่องไปจนถึงปีหน้า เนื่องจากวิกฤตภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ยืดเยื้อและตลาดแรงงานที่อ่อนแอ ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ฉุดรั้งการใช้จ่ายของภาคครัวเรือน ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ ๆ เพื่อผลักดันดีมานด์

ด้านคณะกรรมการถาวรประจำกรมการเมือง (โปลิตบูโร) ของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน เน้นย้ำถึงการกระตุ้นอุปสงค์ภายในประเทศในปี 2568 แต่ก็ส่งสัญญาณถึงการระมัดระวังในการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยท่าทีดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าทางการจีนกำลังสร้างสมดุลระหว่างข้อเรียกร้องให้ดำเนินนโยบายการคลังและการเงินที่ผ่อนคลาย กับความจำเป็นในการบริหารจัดการความเสี่ยงทางการเงิน