***ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดบวก 15.30 ดอลลาร์ รับอานิสงส์เฟดลดดอกเบี้ย
ข่าวต่างประเทศ Saturday December 13, 2025 07:16 ?สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ (12 ธ.ค.) และแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์ ขณะที่เงินดอลลาร์สหรัฐทรงตัว หลังจากอ่อนค่าลงในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ซึ่งดอลลาร์ที่อ่อนค่าจะทำให้ทองคำที่กำหนดราคาเป็นดอลลาร์สหรัฐมีราคาถูกลงสำหรับผู้ซื้อที่ถือสกุลเงินอื่น
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 15.30 ดอลลาร์ หรือ 0.35% ปิดที่ 4,328.30 ดอลลาร์/ออนซ์
ราคาทองคำยังคงได้แรงหนุน หลังจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% เป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกันในปีนี้ และเป็นครั้งสุดท้ายของปีนี้ แต่ส่งสัญญาณใช้ความระมัดระวังในการลดดอกเบี้ยเพิ่มเติม จนกว่าจะมีข้อมูลเศรษฐกิจออกมาชัดเจนมากขึ้น
ขณะนี้นักลงทุนคาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีหน้า และกำลังรอดูรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ที่จะประกาศในสัปดาห์หน้า
โดยทั่วไปแล้ว ทองคำซึ่งไม่ให้ผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย มักปรับตัวได้ดีในสภาพแวดล้อมที่อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำ
นักวิเคราะห์รายหนึ่งกล่าวว่า การคาดการณ์ราคาเฉลี่ยรายปีของทองคำในปี 2569 อยู่ที่ระดับ 4,213 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์
นอกจากนี้ ทองคำยังได้แรงหนุนในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย หลังมีรายงานว่า สหรัฐฯ กำลังเตรียมสกัดกั้นเรือเพิ่มเติมที่ขนส่งน้ำมันจากเวเนซุเอลา หลังจากได้ยึดเรือบรรทุกน้ำมันลำหนึ่งในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเพิ่มแรงกดดันต่อประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร ของเวเนซุเอลา
***ภาวะตลาดน้ำมันน้ำมัน WTI ปิดลบ 16 เซนต์ กังวลอุปทานล้นตลาด
ข่าวต่างประเทศ Saturday December 13, 2025 06:55 ?สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลดลงในวันศุกร์ (12 ธ.ค.) และร่วงลงราว 4% ในรอบสัปดาห์นี้ เนื่องจากภาวะอุปทานล้นตลาดและความเป็นไปได้ของข้อตกลงสันติภาพระหว่างรัสเซียกับยูเครน ได้บดบังความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากการที่สหรัฐฯ ยึดเรือบรรทุกน้ำมันลำหนึ่งใกล้เวเนซุเอลา
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 16 เซนต์ หรือ 0.28% ปิดที่ 57.44 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 16 เซนต์ หรือ 0.26% ปิดที่ 61.12 ดอลลาร์/บาร์เรล
นักวิเคราะห์รายหนึ่งกล่าวว่า ตลาดยังคงถูกกดดันจากสถานการณ์ด้านอุปทานน้ำมันดิบล้นตลาด ขณะเดียวกัน ตลาดน้ำมันกลับเพิกเฉยต่อความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ กับเวเนซุเอลา
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันพุธว่า สหรัฐฯ ได้ยึดเรือบรรทุกน้ำมันที่อยู่ภายใต้มาตรการคว่ำบาตร นอกชายฝั่งเวเนซุเอลา ขณะที่แหล่งข่าวใกล้ชิดระบุเมื่อวันพฤหัสบดีว่า สหรัฐฯ กำลังเตรียมสกัดกั้นเรือเพิ่มเติมที่ขนส่งน้ำมันจากเวเนซุเอลา หลังจากการยึดเรือลำดังกล่าวในสัปดาห์นี้
บรรดาเทรดเดอร์และนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คลายความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากการยึดเรือบรรทุกน้ำมัน โดยชี้ว่าตลาดยังมีอุปทานน้ำมันอย่างเพียงพอ
การคาดการณ์ของสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) ที่เผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดีระบุว่า อุปทานน้ำมันโลกในปีหน้าจะสูงกว่าความต้องการ 3.84 ล้านบาร์เรลต่อวัน คิดเป็นเกือบ 4% ของความต้องการทั่วโลก
ส่วนข้อมูลในรายงานของโอเปก (OPEC) ซึ่งเผยแพร่ในวันเดียวกันระบุว่า อุปทานน้ำมันโลกจะใกล้เคียงกับความต้องการในปี 2569 ซึ่งแตกต่างจากมุมมองของ IEA
นักวิเคราะห์อีกรายระบุว่า ยังมีปัจจัยที่ช่วยพยุงราคาน้ำมันอยู่บ้าง รวมถึงความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่างสหรัฐฯ กับเวเนซุเอลา และการโจมตีด้วยโดรนของยูเครนต่อแท่นขุดเจาะน้ำมันของรัสเซียในทะเลแคสเปียน
ข้อมูลจากแหล่งอุตสาหกรรมระบุว่า การส่งออกผลิตภัณฑ์น้ำมันทางทะเลของรัสเซียในเดือนพ.ย. ลดลงเพียง 0.8% จากเดือนต.ค. โดยการเสร็จสิ้นการซ่อมบำรุงโรงกลั่นได้ช่วยชดเชยการส่งออกเชื้อเพลิงที่ลดลงจากเส้นทางภาคใต้ เช่น ทะเลดำและทะเลอาซอฟ
***ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดลบ 245.96 จุด นลท.วิตกเงินเฟ้อ-ฟองสบู่ AI
ข่าวต่างประเทศ Saturday December 13, 2025 06:31 ?สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลดลงในวันศุกร์ (12 ธ.ค.) ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดร่วงลงมากกว่า 1% เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี หลังได้รับแรงกดดันจากหุ้นบริษัท Broadcom และ Oracle ซึ่งสร้างความกังวลเกี่ยวกับฟองสบู่ปัญญาประดิษฐ์ (AI) นอกจากนี้ ตลาดยังถูกถ่วงลงจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) บางรายแสดงความกังวลเกี่ยวกับการผ่อนคลายนโยบายการเงิน
ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 48,458.05 จุด ลดลง 245.96 จุด หรือ -0.51%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,827.41 จุด ลดลง 73.59 จุด หรือ -1.07% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 23,195.17 จุด ลดลง 398.69 จุด หรือ -1.69%
ในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์บวก 1.05% ขณะที่ดัชนี S&P500 ลดลง 0.63% และดัชนี Nasdaq ลดลง 1.62%
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ เพิ่มสูงขึ้น หลังจากเจ้าหน้าที่เฟดที่ลงคะแนนเสียงคัดค้านการลดอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์นี้นั้น แสดงความกังวลว่า เงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูงเกินไปที่จะสนับสนุนการลดดอกเบี้ย
หุ้น Broadcom ร่วงลง 11.4% หลังจากผู้ผลิตชิปรายนี้เตือนถึงผลกำไรในอนาคตที่อาจลดลง ซึ่งกระตุ้นให้เกิดความกังวลครั้งใหม่เกี่ยวกับความสามารถในการทำกำไรจากการลงทุนด้าน AI ที่พุ่งสูงขึ้น
หุ้น Oracle ร่วงลง 4.5% ต่อเนื่องจากการดิ่งลงเกือบ 11% ในวันพฤหัสบดี หลังบริษัทซอฟต์แวร์คลาวด์รายนี้รายงานแนวโน้มผลประกอบการที่อ่อนแอ แม้ว่าบริษัทปฏิเสธรายงานของ Bloomberg ที่ระบุว่า การส่งมอบศูนย์ข้อมูลของ Oracle สำหรับผู้ผลิต ChatGPT อย่าง OpenAI นั้นมีความล่าช้า แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้หุ้น Oracle ฟื้นตัวขึ้นแต่อย่างใด
นักวิเคราะห์รายหนึ่งกล่าวว่า ไม่ได้แปลกใจที่ตลาดปรับตัวลง หลังจากที่ดัชนีหุ้นทำสถิติปิดสูงสุดติดต่อกันในวันพฤหัสบดี และนักลงทุนกำลังรอการเปิดเผยข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับตลาดแรงงานและเงินเฟ้อที่จะออกมาในสัปดาห์หน้า
รายงานของกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เกี่ยวกับการจ้างงานนอกภาคเกษตร อัตราเงินเฟ้อฝั่งผู้บริโภค และยอดขายปลีก จะมีการเผยแพร่ในสัปดาห์หน้า ซึ่งอาจให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจ หลังจากการปิดทำการของรัฐบาลในเดือนต.ค.ทำให้การเปิดเผยข้อมูลทางการหยุดชะงัก
หุ้น Broadcom เป็นแรงกดดันหลักต่อดัชนี S&P500 ในวันศุกร์ ขณะที่หุ้น Nvidia ซึ่งร่วงลง 3.3% เป็นหุ้นที่กดดันดัชนีรองลงมา
หุ้นทุกตัวในดัชนีหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ตลาดฟิลาเดลเฟียร่วงลง และฉุดดัชนีร่วง 5.1% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงหนักสุดนับตั้งแต่วันที่ 10 ต.ค.
หุ้นอื่น ๆ ที่ได้รับประโยชน์จากการลงทุนด้าน AI แต่ปรับตัวลงในวันศุกร์ได้แก่ หุ้น SanDisk ร่วง 14.7% ซึ่งเป็นหุ้นใน S&P500 ที่ปรับตัวลงมากที่สุด
นอกจากนี้ นักลงทุนยังเทขายหุ้นโครงสร้างพื้นฐาน AI โดยหุ้น CoreWeave ร่วง 10.1% และหุ้น Oklo ร่วง 15.1%
หุ้น 6 กลุ่มจาก 11 กลุ่มอุตสาหกรรมในดัชนี S&P500 ปิดลบ นำโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ร่วง 2.9% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงรายวันรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 10 ต.ค. ขณะที่หุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคปรับตัวขึ้น 0.9%
สำหรับหุ้นรายตัวนั้น หุ้น Lululemon Athletica พุ่งขึ้น 9.6% หลังบริษัทปรับเพิ่มแนวโน้มกำไรประจำปี และประกาศว่า คาลวิน แมคโดนัลด์ ซีอีโอ จะลาออกจากบริษัท
หุ้น Costco Wholesale ปิดแทบไม่เปลี่ยนแปลง แม้รายงานผลประกอบการไตรมาสแรกเหนือความคาดหมายของตลาด โดยผู้บริโภคแห่ซื้อสินค้าจำเป็นและไม่จำเป็นก่อนฤดูกาลวันหยุดสำคัญ