ตอบ

Warning: this topic has not been posted in for at least 120 days.
Unless you're sure you want to reply, please consider starting a new topic.
ชื่อ:
อีเมล์:
หัวข้อ:
ไอค่อนข้อความ:

แนบไฟล์:
(Clear Attachment)
(แนบไฟล์เพิ่ม)
Restrictions: 4 per post, maximum total size 192KB, maximum individual size 128KB
Verification:
กรุณาพิมพ์ชื่อนี้ Rakayang เป็น???าษาไทย:

shortcuts: กด alt+s เพื่อตั้งกระทู้ หรือ alt+p แสดงตัวอย่าง


สรุปหัวข้อ

ข้อความโดย: Rakayang.Com
« เมื่อ: ธันวาคม 18, 2017, 08:18:33 PM »


กยท.ปล่อยกู้สวนยางรายละ5หมื่น ดอกเบี้ยร้อยละ2ลงทุนปลูกพืชผสมผสานเสริมรายได้


หนังสือพิมพ์แนวหน้า -- จันทร์ที่ 18 ธันวาคม 2560 00:00:38 น.
 
นายธีรวัฒน์ เดชทองคำ รองผู้ว่าการ การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เปิดเผยว่า กยท. มีนโยบายสนับสนุนเกษตรกรปลูกสวนยางแบบเกษตรผสมผสาน หรือปลูกพืชเชิงซ้อน โดยจะสนับสนุนเงินทุนให้กู้เพื่อนำมาประกอบอาชีพจากกองทุนพัฒนายางพารารายละไม่เกิน 50,000 บาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2 ต่อปี ซึ่งจะเพียงพอสำหรับการนำไปลงทุนประกอบอาชีพเสริม เพื่อเพิ่มรายได้สร้างความมั่นคง ยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับเกษตรกรชาวสวนยางโดยเฉพาะเกษตรกรรายย่อยได้อย่างยั่งยืน


สำหรับอาชีพเสริมในการทำสวนยางแบบผสมผสานนั้นมีหลากหลายรูปแบบ เกษตรกรอาจจะปลูกพืชแซมยาง หรือพืชร่วมยางก็ได้ เช่น การปลูกข้าวไร่ สับปะรด อ้อยคั้นน้ำ กล้วย มะละกอ ขมิ้นชัน ข่า ตะไคร้ น้าวัวตัดดอก ขิงแดง ดาหลา ไผ่เลี้ยงหวาน ไผ่ตง ไผ่กิมซุ่ง หวายกินหน่อ สละ ไม้ผลต่างๆ เห็ดต่างๆ ผักเหลียง ผักกูด ผักหวานป่า เป็นต้น
 
นอกจากนี้ เกษตรกรชาวสวนยางอาจจะนำเงินมาลงทุนประกอบอาชีพเสริมด้านปศุสัตว์ หรือทำประมงแบบผสมผสานในสวนยางก็ได้เช่นกัน ไม่ว่า จะเป็นการเลี้ยงแพะ การเลี้ยงหมูหลุม (หรือหมูบังเกอร์) เลี้ยงไก่พื้นเมือง เป็ด การเพาะจิ้งหรีด ชันโรง ด้วงสาคู เลี้ยงผึ้งพันธุ์ หนอนนก การเลี้ยงกบหรือ ปลาดุกในบ่อซีเมนต์หรือบ่อพลาสติก ภายในสวนยาง เป็นต้น หรือแม้การประกอบอาชีพ เสริมอื่นๆ เช่น การทำปุ๋ยอินทรีย์ การแปรรูปสินค้าเกษตร การท่อผ้า เป็นต้น ซึ่ง กยท.พร้อมที่จะให้การสนับสนุนทั้งเงินทุนและความรู้ในการประกอบอาชีพเสริมดังกล่าว โดยเกษตรกรสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้จากหน่วยงานของ กยท.ในพื้นที่นั้นๆ
 
อย่างไรก็ตาม การทำอาชีพเสริมจะประสบผลสำเร็จได้นั้น เกษตรกรจะต้องมีความขยัน อดทน และที่สำคัญจะต้องเกิดจากความต้องการของเกษตรกรจริงๆ ซึ่งที่ผ่านมามีเกษตรกรหลายรายที่ประสบผลสำเร็จในการทำสวนยางแบบผสมผสานดังกล่าว ทำให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน ไม่ว่าราคายางพาราจะตกต่ำหรือวิกฤติแค่ไหนก็ตาม
 
รองผู้ว่าฯ กยท.กล่าวต่อว่า สำหรับสวนยางเก่าที่ต้องการโค่นเพื่อ ปลูกใหม่ กยท. มีเป้าหมายที่จะโค่นสวนยาง เก่าให้ได้ปีละ 400,000 ไร่ และปลูกทดแทนด้วยยางพันธุ์ดีประมาณ 200,000 ไร่ ที่เหลือปลูกแทนด้วยพืชเศรษฐกิจอื่นๆ หรือไม้ผล จะทำให้ในแต่ละปีได้ผลผลิตที่ดีมาทดแทนผลผลิตที่เสื่อมสภาพ โดยเกษตรกรจะได้รับเงินสนับสนุนไร่ละ 16,000 บาท ทั้งนี้เพื่อสร้างความสมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทาน