วิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อราคายาง วันพุธที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2557

[Rakayang.Com]

วิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อราคายาง

วันพุธที่  5  มีนาคม พ.ศ. 2557

ปัจจัย[/t][/t] [/t] วิเคราะห์ 1. สภาพภูมิอากาศ - ลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ทำให้บริเวณภาคตะวันออกและภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองเป็นบางแห่ง อย่างไรก็ตาม สภาพอากาศโดยทั่วไปแห้งแล้ง หลายพื้นที่หยุดกรีดยางแล้ว 2. การใช้ยาง - ออโต ด้าต้า คอร์ป บริษัทวิจัยด้านยานยนต์สหรัฐฯ เปิดเผยยอดจำหน่ายรถยนต์ใหม่ตลาดสหรัฐฯ เดือนกุมภาพันธ์อยู่ที่ 1,193,872 คัน ลดลง 293 คัน เมื่อเทียบเป็นรายปี อย่างไรก็ตาม ยอดจำหน่ายโดยรวมต่อปีอยู่ที่ 15.34 ล้านคัน ทำสถิติเหนือ 15 ล้านคันติดต่อกันเป็นเวลา 16 เดือน - โตโยต้ามอร์เตอร์ คอร์ป คาดว่ายอดจำหน่ายรถยนต์ปี 2557 จะเพิ่มขึ้นจาก 847,530 คัน เป็นกว่า 865,000 คัน โดยได้รับแรงหนุนจากตลาดรถยนต์ในยุโรปที่ฟื้นตัว และกระแสความนิยมรถไฮบริดของผู้บริโภคในยุโรป 3. เศรษฐกิจโลก - ศูนย์วิจัยสังคมวิทยา (CIS) สเปนเปิดเผยว่า ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนกุมภาพันธ์ลดลง 6.2 จุด จากเดือนมกราคม ชี้ให้เห็นมุมมองของผู้บริโภคที่มีต่อเศรษฐกิจย่ำแย่ลง สำหรับดัชนีชี้วัดสถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบันลดลง 7 จุด สู่ระดับ 55.0 จุด จากกระแสความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจและตลาดแรงงานในประเทศ - ธนาคารกลางออสเตรเลียมีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ร้อยละ 2.5 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 60 ปี พร้อมกล่าวว่าเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มกระเตื้องขึ้นในปีนี้ หลังจากที่มีการขยายตัวต่ำกว่าแนวโน้มในปี 2556 - อุตสาหกรรมวิศวกรรมเยอรมันเริ่มต้นปีนี้อย่างสดใส โดยเปิดเผยว่ายอดสั่งซื้อเครื่องจักรและเครื่องมือเดือนมกราคมปรับตัวขึ้นร้อยละ 6.0 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยอุปสงค์ในประเทศขยายตัวร้อยละ 2.0 - สถาบันจัดการด้านอุปทานสหรัฐฯ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาวะธุรกิจปัจจุบันของนิวยอร์กปรับตัวลดลงสู่ 57.0 จุดในเดือนกุมภาพันธ์ จาก 64.4 จุดในเดือนมกราคม นับเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่เดือนกันยายน 2556 เนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นผิดปกติ - นายกรัฐมนตรีจีนเสนอรายงานการดำเนินงานของรัฐบาลต่อที่ประชุมประจำปีรัฐสภาจีน โดยระบุว่าจีนยังคงกำหนดเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจไว้ที่ร้อยละ 7.5 ในปี 2557 ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากปีที่แล้ว 4. อัตราแลกเปลี่ยน - เงินบาทอยู่ที่ 32.37 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ แข็งค่าขึ้น 0.18 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ - เงินเยนอยู่ที่ 102.15 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ อ่อนค่าลง 0.47 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ 5. ราคาน้ำมัน - สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาด Nymex ส่งมอบเดือนเมษายน ปิดตลาดที่ 103.33 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง 1.59 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เนื่องจากนักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ยูเครน หลังมีรายงานว่าประธานาธิบดีรัสเซีย (นายวาราดิเมีย ปูติน) สั่งการให้ทหารที่เข้าร่วมปฏิบัติการซ้อมรบเคลื่อนกำลังกลับฐาน ซึ่งเป็นสัญญาณชี้ว่าสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครนเริ่มคลี่คลายลง 6. การเก็งกำไร - ราคาตลาด TOCOM ส่งมอบเดือนเมษายน อยู่ที่ 231.6 เยนต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้น 4.5 เยนต่อกิโลกรัม และส่งมอบเดือนสิงหาคม อยู่ที่ 230.8 เยนต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้น 5.0 เยนต่อกิโลกรัม - ราคาตลาด SICOM เปิดตลาดที่ 220.5 เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้น 0.3 เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม 7. ข่าว - ผู้อำนวยการจัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF.) กล่าวว่า สเปนควรปฏิรูปแรงงานเชิงลึก เพื่อลดต้นทุนค่าใช้จ่ายด้านแรงงาน - นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในยูเครนที่ส่งสัญญาณคลี่คลายลง หลังจากประธานาธิบดีรัสเซีย (นายวาราดิเมีย ปูติน) สั่งการให้ทหารที่เข้าร่วมปฏิบัติการซ้อมรบเคลื่อนกำลังกลับฐาน โดยก่อนหน้านี้มีรายงานว่า รัฐบาลสหรัฐฯ อาจโดดเดี่ยวรัสเซียทั้งในด้านการทูตและเศรษฐกิจ หากรัสเซียปฏิเสธที่จะถอนกำลังออกจากเขตปกครองตนเองไครเมียในยูเครน 8. ข้อคิดเห็นของผู้ประกอบการ - ราคายางปรับตัวสูงขึ้นประมาณ 1 บาท เนื่องจากผลผลิตออกสู่ตลาดเบาบางลง ขณะที่ผู้ประกอบการหลายรายพยายามพยุงราคาให้สูงขึ้น เพื่อขายยางที่ตนมีอยู่จำนวนมากในโรงงานให้ได้มากที่สุดก่อนจะหยุดพักผ่อนในเดือนเมษายน และก่อนที่ผลผลิตรอบใหม่จะออกสู่ตลาด แนวโน้ม ราคายางมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดล่วงหน้าโตเกียว จากการอ่อนค่าของเงินเยนและนักลงทุนคลายความกังวลหลังจากสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครนเริ่มส่งสัญญาณคลี่คลายลง อีกทั้งข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ และยูโรโซนออกมาดี ได้ช่วยหนุนให้ตลาดหุ้นและตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ซึ่งรวมถึงยางพาราปรับตัวสูงขึ้น ประกอบกับอุปทานยางออกสู่ตลาดเบาบางลงในช่วงฤดูยางผลัดใบ คณะทำงานวิเคราะห์สถานการณ์ตลาดและราคายาง สำนักงานตลาดกลางยางพาราสงขลา

[/td][/tr][/table]