วิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อราคายาง วันพฤหัสบดีที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2557

[Rakayang.Com]

วิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อราคายาง

วันพฤหัสบดีที่  24  เมษายน  พ.ศ. 2557

ปัจจัย[/t][/t] [/t] วิเคราะห์ 1. สภาพภูมิอากาศ - ความกดอากาศต่ำยังคงปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศร้อน ส่วนภาคใต้มีเมฆมากกับมีฝนตกกระจาย ร้อยละ 20 - 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่ 2. การใช้ยาง - สมาคมผู้ผลิตยานยนต์จีนคาดว่าปี 2557 ยอดจำหน่ายรถยนต์ในจีนอาจปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 8 - 10 โดยระดับการขยายตัวดังกล่าวอาจจะสร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ด้วยเช่นกัน พร้อมระบุว่ายอดจำหน่ายรถยนต์ใหม่อาจสูงถึง 24.18 ล้านคัน- ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองแนวโน้มราคายางพาราปีนี้น่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 50 - 70 บาทต่อกิโลกรัม จากสถานการณ์โลกที่ฉุดรั้ง อีกทั้งปัจจัยพื้นฐานยังรุมเร้า โดยเฉพาะเศรษฐกิจจีนซึ่งเป็นผู้ใช้ยางรายใหญ่ของโลกยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ แม้ว่าจีนจะมีแผนพัฒนาประเทศและน่าจะมีการใช้ยาง แต่เชื่อว่าจีนน่าจะบริหารงบประมาณให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจของประเทศ เน้นการรักษาเสถียรภาพมากกว่าที่จะทุ่มเงินงบประมาณในการพัฒนาประเทศ เพราะฉะนั้นจะใช้เงินแบบระมัดระวัง ถ้าจะสั่งซื้อยางก็คงจะทยอยซื้อ ที่สำคัญคือสต๊อคยางจีนมีจำนวนมาก เพราะฉะนั้นความหวังที่จีนจะสั่งซื้อยางจากไทยมากเหมือนในอดีตอาจเป็นไปได้ยาก 3.เศรษฐกิจโลก - ธนาคารกลางเกาหลีใต้ระบุว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ที่แท้จริง ซึ่งเป็นมาตรวัดทางเศรษฐกิจกว้างที่สุดของเกาหลีใต้ ไตรมาสแรกขยายตัวที่ร้อยละ 0.9  เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้านี้ - ผลสำรวจของมาร์กิต อิโคโนมิกส์ แสดงให้เห็นว่าดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เบื้องต้นของยูโรโซนเดือนเมษายนพุ่งขึ้นแตะ 54.0 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 35 เดือน จาก 53.1 จุดในเดือนมีนาคม โดยดัชนี PMI ภาคการผลิตเบื้องต้นเพิ่มขึ้น 53.3 จุด สูงสุดในรอบ 3 เดือน จาก 53.0 จุด และดัชนี PMI ภาคบริการเบื้องต้นปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 53.1 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 34 เดือน เมื่อเทียบกับระดับ 52.2 จุดในเดือนมีนาคม - ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เบื้องต้นเยอรมันเดือนเมษายนปรับตัวขึ้นอยู่ที่ 56.3 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือน จาก 54.3 จุดในเดือนมีนาคม - ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เบื้องต้นฝรั่งเศสเดือนเมษายนลดลงอยู่ที่ 50.5 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน จาก 51.8 จุดในเดือนมีนาคม - หนังสือพิมพ์ Les Echos ของฝรั่งเศสคาดการณ์ว่ารัฐบาลฝรั่งเศสอาจปรับเพิ่มเป้าหมายการขยายตัวทางเศรษฐกิจประจำปี 2557 อีกร้อยละ 0.1 เป็นร้อยละ 1.0 โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการปฏิรูปแรงงานและแรงกระตุ้นในการส่งเสริมศักยภาพในการแข่งขัน - คอนเฟอเรนซ์ บอร์ด เปิดเผยว่า ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจปรับตัวขึ้นร้อยละ 0.8 ในเดือนมีนาคม หลังจากเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.5 ในเดือนกุมภาพันธ์ สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ร้อยละ 0.7 นับเป็นสัญญาณว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจขยายตัวเร็วขึ้นในไม่กี่เดือนข้างหน้า หลังจากสภาพอากาศหนาวรุนแรงได้ส่งผลให้เศรษฐกิจชะลอตัวในไตรมาสแรก - กระทรวงการคลังเยอรมันเปิดเผยว่า รายได้จากการจัดเก็บของรัฐบาลปรับตัวขึ้นร้อยละ 7.2 ในเดือนมีนาคม เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยไตรมาสแรกรายได้จากการจัดเก็บภาษีอยู่ที่ราว 1.4 แสนล้านยูโร เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.7 จากปีก่อน - มาร์กิต อิโคโนมิกส์ ผู้ให้บริการข้อมูลการเงินของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า กิจกรรมภาคการผลิตเดือนเมษายนของสหรัฐฯ ยังคงขยายตัว แม้อัตราการขยายตัวจะขยับขึ้นเล็กน้อยก็ตาม โดยระบุว่าดัชนี PMI. ภาคการผลิตเบื้องต้นอยู่ที่ 55.4 จุด จาก 55.5 จุดในเดือนมีนาคม 4. อัตราแลกเปลี่ยน - เงินบาทอยู่ที่ 32.34 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ แข็งค่าขึ้น 0.03 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ- เงินเยนอยู่ที่ 102.47 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ แข็งค่าขึ้น 0.13 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ 5. ราคาน้ำมัน - สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาด Nymex ส่งมอบเดือนมิถุนายน ปิดตลาดที่ 101.44 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง 0.31 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานสหรัฐฯ (EIA.) เปิดเผยว่าสต๊อคน้ำมันดิบประจำสัปดาห์พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ทำให้นักลงทุนกังวลว่าอุปสงค์พลังงานในสหรัฐฯ กำลังชะลอตัวลง- สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานสหรัฐฯ (EIA.) เปิดเผยว่า สต๊อคน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 18 เมษายน 2557 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.5 ล้านบาร์เรล อยู่ที่ 397.7 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นราว 3 ล้านบาร์เรล 6. การเก็งกำไร - ราคาตลาด TOCOM ส่งมอบเดือนพฤษภาคม อยู่ที่ 198.4 เยนต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้น 0.1 เยนต่อกิโลกรัม และส่งมอบเดือนกันยายน อยู่ที่ 202.7 เยนต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้น 1.5 เยนต่อกิโลกรัม- ราคาตลาด SICOM เปิดตลาดที่ 205.8 เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม ลดลง 0.7 เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม 7. ข่าว - กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่ายอดจำหน่ายบ้านใหม่เดือนมีนาคมลดลงร้อยละ 14.5 อยู่ที่ 384,000 ยูนิต ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 8 เดือน และลดลงเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน 8. ข้อคิดเห็นของ ผู้ประกอบการ - ราคายางน่าจะทรงตัวในระดับนี้ไปอีกสักระยะหนึ่ง โดยผู้ประกอบการบางรายกล่าวว่า ราคาไม่น่าจะต่ำไปกว่านี้ เพราะหลายฝ่ายเริ่มรับไม่ได้ ขณะนี้เริ่มส่งผลกระทบต่อแรงงานกรีดยางที่ได้รับผลตอบแทนไม่เพียงพอกับรายจ่าย จึงเริ่มมีการมองหาอาชีพอื่นที่รายได้มากกว่า แนวโน้ม ราคายางมีแนวโน้มทรงตัวหรือเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยตามตลาดล่วงหน้าโตเกียวและเซี่ยงไฮ้ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัว ผลผลิตยางส่วนเกิน และราคาน้ำมันปรับตัวลดลง ประกอบกับได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐฯ ขณะที่ยังไม่มีปัจจัยใหม่อื่น ๆ เข้ามากระตุ้นตลาด อย่างไรก็ตาม ราคาที่ปรับตัวลดลงมากอาจจะมีการเข้าซื้อเพื่อเก็งกำไรในระยะสั้น ๆ ซึ่งส่งผลต่อราคายางในตลาดซื้อขายจริงได้ คณะทำงานวิเคราะห์สถานการณ์ตลาดและราคายาง  สำนักงานตลาดกลางยางพาราสงขลา

[/td][/tr][/table]