ราคายางไร้ปัจจัยใหม่ในการกระตุ้นตลาด แนะเก็งกำไรในกรอบ
ราคายางตลาดกลางยางพาราสงขลา ยางแผ่นดิบแตะระดับ 62.25 บาท/กก. ปรับตัวสูงขึ้น 0.19 บาท/กก. ในทิศทางเด...
ราคายางตลาดกลางยางพาราสงขลา ยางแผ่นดิบแตะระดับ 62.25 บาท/กก. ปรับตัวสูงขึ้น 0.19 บาท/กก. ในทิศทางเดียวกับตลาดโตเกียว เพราะยังมีแรงหนุนจากสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าว ทำให้ต้นยางให้ผลผลิตน้อย ขณะที่แหล่งข่าวรายงานว่าโรงงานหลายแห่งเริ่มขาดแคลนยาง จึงเร่งซื้อ ส่วนยางแผ่นรมควันแตะระดับ 66.69 บาท/กก. ปรับตัวลดลง 0.20 บาท/กก. เพราะนักลงทุนชะลอการซื้อเพื่อรอดูผลประชุมของธนาคารกลางญี่ปุ่นในวันนี้ และเงินเยนแข็งค่า รวมทั้งความกังวลเกี่ยวกับภาคอสังหาริมทรัพย์จีน อาจจะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจจีน ซึ่งเป็นผู้ใช้ยางรายใหญ่สุดของโลก
แนวโน้มวันนี้ : ดัชนีในภาพรวมเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 60.50 – 65.00 บาท แนะเก็งกำไร ปัจจัยพื้นฐาน :ดัชนีราคายาง (RSS3) ในภาพรวมเหวี่ยงตัวในกรอบระหว่าง 60.50 ? 65.00 บาท โดยดัชนีมีปัจจัยบวกจากเนื่องจากมีแรงหนุนจากผู้ประกอบการเร่งซื้อ เพราะหลายโรงงานเริ่มขาดแคลนยาง และมีกระแสข่าวว่าจีนเริ่มกลับเข้าซื้อจากสต็อกที่ปรับลดลงต่อเนื่อง ประกอบกับผลผลิตยางในระยะนี้ออกสู่ตลาดเพียงร้อยละ 50 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของทุกปี และเงินบาทอยู่ที่ 32.56 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่า 0.01 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
อย่างไรก็ตาม ตลาดยางมีปัจจัยลบจาก สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาด Nymex ส่งมอบเดือน มิถุนายน ปิดตลาดที่ 102.44 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง 0.17 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ขณะที่ตลาดคาดว่าการผลิตน้ำมันที่แข็งแกร่งในสหรัฐฯ จะหนุนปริมาณสต็อกให้สูงขึ้น และกระทรวงการคลังของญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ญี่ปุ่นมียอดขาดดุลการค้า 8.089 แสนล้านเยน ในเดือนเมษายน ทำสถิติขาดดุลการค้าเป็นเดือนที่ 22 ติดต่อกัน โดยรายงานเบื้องต้นระบุว่า ยอดส่งออกของญี่ปุ่นในเดือนเมษายนเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.1 จากปีก่อน ในขณะที่การนำเข้าปรับตัวขึ้นร้อยละ 3.4
การวิเคราะห์ (AFET): ดัชนีในระยะสั้นเคลื่อนไหวในกรอบ sideway ระหว่าง 60.50 ? 65.00 บาท โดยรอเวลาที่จะทะลุออกจากกรอบ ซึ่งเบื้องต้นดัชนีจะมีแนวรับแรกที่ 63.00บาท แนวรับใหญ่ที่ 60.50 บาท แนวต้านแรกที่ 65.00 บาท แนวต้านถัดมาที่ 68.00 บาท