บิ๊กตู่แฉมีคนปลุกระดม เป่าหู สวนยาง ก่อม็อบ (18/12/2557)
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวระหว่างเป็นประธานเปิดงาน ?คืนความสุขให้เธอ...เยาวชน? ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา ท้องฟ้าจำลอง เมื่อวันที่ 17ธันวาคม ตอนหนึ่งถึงปัญหาราคายางพาราวันนี้ที่มีการออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยปรับ ขึ้นราคาว่า เกษตรกรเขาไม่รู้เรื่อง มีแต่คนไปปลุกระดม สร้างความเข้าใจผิดมาตลอด อย่างราคาน้ำมันดิบที่ตอนนี้ลดลงประมาณ 50% ต่อบาเรล แต่จะให้เราลดราคาน้ำมันที่ผ่านการกลั่นแล้ว ให้เท่ากับราคาน้ำมันดิบที่ลดไม่ได้ เพราะมีปัจจัยต่างๆอีกมาก ขอร้องอย่าเอาเรื่องทั้งหมดมาพันกัน หรือถ้าจะทำง่ายๆ ให้หาเงินมาอุดหนุนแบบเก่าก็ทำได้ แต่สถานการณ์ปัจจุบันประเทศทั่วโลกยกเลิกการทำแบบนี้หมดแล้ว
นายกฯกล่าวต่อว่า สิ่งที่ควรคิดคือการสร้างนวัตกรรมใหม่มาแข่งขันกัน ที่ผ่านมาหลายรัฐบาลไม่คิด มัวแต่ประท้วงและกลัวเสียคะแนนเสียง แม้แต่การขึ้นทะเบียนชาวนาก็ยังทำไม่ได้ทั้ง 100% ที่จ่ายช้าเพราะจ่ายไม่ได้ เนื่องจากการขึ้นทะเบียนไม่ครบ กว่าจะไล่ให้หมดก็ช้า แต่ถ้าทำแบบเร็วก็จะเกิดการโกง ความจริงคนเป็นนายกรัฐมนตรีควรพูดให้น้อย จะได้ไม่โดนด่า แต่ที่ตนพูดมากเพื่อสร้างความเข้าใจ คนไทยต้องแยกแยะสิ่งต่างๆ ให้ได้
ด้านนายอำนวย ปะติเส รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงกรณีนายกฯตั้งข้อสงสัยอาจมีการปลุกระดมให้เกิดความเข้าใจผิดและ เคลื่อนไหวเรียกร้องเรื่องราคายางว่า แต่ละเวทีที่หารือเกี่ยวกับการแก้ปัญหาราคายาง มีตัวแทนเกษตรกรเข้าไปร่วมแก้ปัญหาทุกระยะอยู่แล้ว ทั้งนี้ เราตั้งเป้าราคายางไว้ที่ 60 บาท และขณะนี้ราคายางขยับขึ้นเร็วกว่าที่คาดไว้ และถึงราคาที่เราตั้งไว้ภายในสิ้นปีนี้แน่นอน ทั้งนี้ ส่วนตัวพร้อมลงพื้นที่ไปพบเกษตรกรด้วยตัวเองหากมีการประสานมา
?ไม่มีสินค้าการเกษตรตัวใดที่เกษตรกรเข้ามาร่วมบริหารเท่ากับเรื่องยาง ถือเป็นโอกาสที่เกษตรกรได้เข้ามาร่วมทำงานกับรัฐบาลเต็มที่ เพราะเข้าใจว่าเรื่องยางเป็นเรื่องที่ประชาชนเดือดร้อน ถ้าไปไม่ได้ดังใจก็ขออภัยที่ทำงานด้วยกันแต่ทำได้เท่านี้ การได้มาทำด้วยกันเห็นด้วยกันก็น่าจะดีที่สุด?นายอำนวยกล่าว
ส่วนกรณีที่นายกฯมีแนวคิดนำยางมาทำเรื่องลู่วิ่ง นายอำนวยกล่าวว่า นายกฯมีความเห็นว่าหากเอายางพารามาใช้กับเรื่องดังกล่าว จะทำให้ใช้ยางในประเทศได้มากขึ้น จากการพูดคุยกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในภาคใต้ก็อยากดำเนินการเรื่องนี้ แต่ติดระเบียบการจัดซื้อ เพราะหากมีผู้ประมูลทำถนนรายเดียวต้องยกเลิก ซึ่งได้ประสานกระทรวงการคลังว่าจะหาทางออกในเรื่องนี้ได้หรือไม่ จากการพูดคุยกับรมว.คลัง ก็ระบุว่าเตรียมพิจารณาเรื่องดังกล่าว แต่ต้องตัดสินใจ เพราะการประมูลรายเดียวแล้วเป็นช่องทางทุจริตจะมีปัญหา จึงต้องมีระบบป้องกันเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม ถ้ามาตรการนี้เกิดขึ้น การใช้ยางพาราในประเทศก็จะมีมากขึ้น ราคายางขณะนี้ก็เหมาะสมที่จะใช้ในหลายประการ ซึ่งต้องดำเนินการให้สำเร็จ
วันเดียวกัน นายนิพิฎฐ์ อินทรสมบัติและนายสาธิต ปิตุเตชะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมอดีตส.ส.พื้นที่ปลูกยางพาราทั้งในภาคใต้และภาคตะวันออกกว่า 10 คนเข้าพบนายปีติพงษ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รมว.เกษตรฯ โดยนายนิพิฎฐ์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 24 กันยายนที่ผ่านมา ตนและอดีต ส.ส.ไปยื่น 5 มาตรการเร่งด่วนให้รัฐบาลแก้ปัญหาราคายางตกต่ำถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผ่านรมว.เกษตรฯ ขณะนี้ผ่านมากว่า 2 เดือนความเดือดร้อนชาวสวนยางยังไม่บรรเทา พวกตนจึงขอเข้าพบเพื่อถามความคืบหน้าว่ารัฐบาลดำเนินการใน 5 มาตรการด่วนที่ได้เสนอไปแล้วหรือไม่ อย่างไร และจะขอทราบมาตรการแก้ปัญหาเวลานี้ของรัฐบาลว่าทำอะไรไปแล้ว จะได้ชี้แจงต่อชาวสวนยางในพื้นที่ได้ เพราะที่ผ่านมามีช่องว่างในการสื่อสาร ระหว่างรัฐบาลกับชาวสวนยาง ทั้งยังมีข่าวว่า รัฐบาลขายยางในสต๊อกรัฐที่มีอยู่ 2.1 แสนตันไปแล้ว ถ้าขายไปจริง จะเป็นเหตุทำให้ราคายางไม่กระเตื้องขึ้น เพราะต้นทุนน้ำยางพาราอยู่ที่ไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 64 บาท หากยังขายได้ต่ำกว่าราคานี้ ชาวสวนยางก็ต้องแบกรับภาระหนี้สินจากการขาดทุน
ที่มา หนังสือพิมพ์แนวหน้า (วันที่ 18 ธันวาคม 2557)
