"ฉัตรชัย" ตั้งคณะทำงานเร่งรัดขายข้าว-ยาง พร้อมเดินหน้านำเข้าน้ำมันปาล์ม 5 หมื่น
รมว.พาณิชย์จัดคณะทำงานติดตามความคืบหน้าขายข้าว ยางพารา กับจีนและรัสเซีย เพื่อเร่งดำเนินการให้เห็นผลและมีประสิทธิภาพ ด้านนำเข้าน้ำมันปาล์ม 50,000 ตัน เชื่อไม่กระทบราคาผลปาล์มและเพียงพอต่อการบริโภคภายในประเทศระยะ 2 เดือน
พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมติดตามผลการดำเนินงานของกระทรวงพาณิชย์ ว่า กระทรวงพาณิชย์เตรียมตั้งคณะทำงาน เพื่อติดตามความคืบหน้า กรณีการลงนามบันทึกข้อตกลงซื้อขายข้าวสารระหว่างรัฐบาลไทย-จีน ปริมาณ 2,000,000 ตัน และยางพารา 200,000 ตัน พร้อมทั้ง การหารือกับรัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมรัสเซีย ที่แสดงความสนใจรับซื้อยางพาราไทยปริมาณ 80,000 ตัน โดยจะส่งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเดินทางติดตามและเร่งรัดการดำเนินงานเรื่องดังกล่าวได้โดยเร็ว เพื่อเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ
ส่วนกรณีนี้ การดูแลราคาสินค้าได้มอบหมายให้กรมการค้าภายในติดตามดูแลอย่างใกล้ชิด ขณะที่กรมการค้าภายในเองจะเพิ่มเจ้าหน้าที่ในการลงพื้นที่ตรวจสอบราคาสินค้าจาก 500 คนก็จะเพิ่มให้มากขึ้น พร้อมประชาชนหากพบว่ามีผู้ฉกฉวยขึ้นราคาสินค้า สามารถร้องเรียนมาได้ที่ 1569 และการดูแลราคาสินค้าเกษตร ด้านนโยบายของรัฐบาลก็มุ่งดูแลเกษตรกร ช่วยเหลือเกษตรกรเต็มที่ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ให้ดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนราคาข้าวก็จะพยายามดูแลให้ได้ราคาไม่ต่ำกว่าปี 2557 ที่ผ่านมา พร้อมทั้งให้เป็นไปตามกลไกของตลาด
นางสาวชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่พิจารณาอนุมัติการนำเข้าน้ำมันปาล์ม 50,000 ตัน ช่วงเดือนกุมภาพันธ์นี้ เพื่อใช้ในการบริโภคได้ภายใน 2 เดือน และเชื่อว่าเพียงพอต่อความต้องการบริดภคภายในประเทศ ที่ปกติการบริโภคภายในประเทศต่อเดือนปริมาณ 150,000 ตัน
"เชื่อว่าการนำเข้าน้ำมันฯ จะไม่กระทบต่อราคาผลปาล์มในประเทศที่กำลังจะออกช่วงในเดือนมีนาคม เพราะเป็นการนำเข้าในระยะสั้น และราคาผลปาล์มในประเทศ จะไม่ให้ต่ำกว่า 5 บาทต่อกิโลกรัม ส่วนบางตลาดที่มีการขาดแคลนนั้น มองว่าอาจจะเป็นการฉวยโอกาสของผู้ค้าบางกลุ่ม ในช่วงปริมาณน้ำมันตึงตัว ขึ้นราคาเพื่อการค้ากำไร"
ทั้งนี้ สำหรับสต๊อกน้ำมันปาล์มที่ปลอดภัยนั้นจะต้องอยู่ที่ 200,000 ตัน แต่ขณะนี้ปริมาณสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบลดลงผิดปกติ ซึ่งปริมาณลดลงตั้งแต่เดือนตุลาคม 2557 ถึงช่วงเดือนมกราคม 2558 ซึ่งปริมาณลดลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ก็เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อนติดตามผลกระทบ เพื่อหาทางแก้ไข และกรณีผลผลิตลดลงต่างจากปัญหาที่ผ่านมา ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินการแก้ไขล่วงหน้า ก่อนที่จะเกิดปัญหา มั่นใจว่าน้ำมันปาล์มเพียงพอต่อการบริโภคอย่างแน่นอน
"เมื่อนำเข้าน้ำมันปาล์มมาแล้ว ก็จะบริหารจัดการป้อนโรงงานเพื่อผลิตน้ำมันปาล์มบรรจุขวดจำหน่าย ตามราคาควบคุมของกระทรวงพาณิชย์ที่กำหนดไว้ไม่ให้เกินขวดลิตรละ 42 บาท และยืนยันกระทรวงพาณิชย์จะดำเนินการจับกุมผู้ที่ฉวยโอกาสปรับขึ้นราคา และกักตุนสินค้า นอกจากนี้ ทางรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ก็ได้ส่งคนลงพื้นที่ตลาดค้าส่งขนาดใหญ่ของภาคตะวันออก จ.ชลบุรี เพื่อตรวจน้ำมันปาล์ม พร้อมทั้งหารือห้างโมเดิร์นเทรด สินค้าต้องเพียงพอ"
ที่มา ประชาชาติธุรกิจ (21 มกราคม 58)