ผู้เขียน หัวข้อ: วิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อราคายาง วันจันทร์ที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2558  (อ่าน 963 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 88292
    • ดูรายละเอียด

วิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อราคายาง

วันจันทร์ที่  30  มีนาคม  พ.ศ. 2558


ปัจจัย


วิเคราะห์


1. สภาพภูมิอากาศ


- กระแสลมตะวันออกยังคงปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ กับมีลมกรรโชกแรงบางพื้นที่ ส่วนภาคใต้มีเมฆเป็นส่วนมากกับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งร้อยละ 10 - 20 ของพื้นที่


2. การใช้ยาง


- บริษัทฮอนด้ามอเตอร์ เปิดเผยว่า บริษัทจะทุ่มเงิน 9.65 พันล้านรูปี (156 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ) ลงทุนในอินเดีย เพื่อขยายประสิทธิภาพการผลิตรถยนต์เป็นตลาดรถยนต์ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 3 ของเอเชีย


- บริษัทฮอนด้ามอเตอร์ได้แก้ไขตัวเลขการผลิตรถยนต์ในญี่ปุ่นเดือนกุมภาพันธ์ โดยระบุว่าการผลิตรถยนต์ลดลงร้อยละ 25.1 จากปีก่อน สู่ระดับ 63,593 คัน


3. สต๊อคยาง


- สต๊อคยางจีน ณ วันที่ 27 มีนาคม 2558 ลดลง 2,389 ตัน หรือลดลงร้อยละ 1.60 อยู่ที่ 146,727 ตัน จากระดับ 149,116 ตัน เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2558


4. เศรษฐกิจโลก


- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่า ตัวเลขการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 4 ปี 2557 ชะลอตัวสู่ร้อยละ 2.2 เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากคาดการณ์เมื่อเดือนที่แล้ว โดยเศรษฐกิจสหรัฐฯ เติบโตร้อยละ 2.4 ในไตรมาส 4 หลังจากมีการขยายตัวร้อยละ 2.7 ไตรมาส 3


- กระทรวงสื่อสารและกิจการภายในของญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนกุมภาพันธ์ปรับตัวขึ้นร้อยละ 2.0 เมื่อเทียบเป็นรายปี ทำสถิติเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 21


- ข้อมูลทางการจีนระบุว่า ผลกำไรภาคอุตสาหกรรมจีนในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2558 ปรับตัวลดลงร้อยละ 4.2 เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะระดับ 7.4524 แสนล้านหยวน


- กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนกุมภาพันธ์ปรับตัวลดลงร้อยละ 3.4 จากเดือนก่อน ส่วนดัชนีการขนส่งภาคอุตสาหกรรมปรับลดลงร้อยละ 3.4 แตะ 100.2 และดัชนีสต๊อคสินค้าคงคลังภาคอุตสาหกรรมขยับขึ้นร้อยละ 0.5 แตะ 111.8


- ประธานาธิบดีสี เจิ้นผิง ของจีนกล่าวว่า เศรษฐกิจจีนมีความยืดหยุ่นและศักยภาพสูง ซึ่งเปิดทางให้รัฐบาลสามารถใช้เครื่องมือนโยบายรูปแบบต่าง ๆ กระตุ้นได้มากกว่าการขยายตัวที่ระดับตัวเลขสองหลักในปีที่ผ่าน ๆ มา


- ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เปิดเผยว่า เฟดคาดว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นจะเกิดขึ้นในช่วงต่อไปของปีนี้ โดยจะเป็นการปรับขึ้นทีละน้อย


- ผลสำรวจของรอยเตอร์และมหาวิทยาลัยมิชิแกน ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นสุดท้ายเดือนมีนาคมอยู่ที่ 93.0 จากตัวเลขเบื้องต้นที่ 91.2 แต่ต่ำกว่าระดับ 95.4 ของเดือนกุมภาพันธ์ โดยถูกกดดันจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้น และสภาพอากาศที่เลวร้าย ส่งผลกระทบต่อครัวเรือนที่มีรายได้น้อย


5. อัตราแลกเปลี่ยน


- เงินบาทอยู่ที่ 32.62 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ อ่อนค่าลง 0.02 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ


- เงินเยนอยู่ที่ 119.27 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ แข็งค่าขึ้น 0.05 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ


6. ราคาน้ำมัน


- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาด Nymex ส่งมอบเดือนพฤษภาคม ปิดตลาดที่ 48.87 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง 2.56 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล เนื่องจากนักลงทุนขายทำกำไร ภายหลังจากที่ราคาพุ่งขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดี ขณะเดียวกันนักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง โดยมองว่าความขัดแย้งดังกล่าวอาจไม่ส่งผลมากนักต่ออุปทานและการขนส่งน้ำมัน


- ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (Brent) ตลาดลอนดอน ส่งมอบเดือนพฤษภาคม ปิดที่ 56.41 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง 2.78 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล


7. การเก็งกำไร


- ราคาตลาด TOCOM ส่งมอบเดือนเมษายน อยู่ที่ 211.0 เยนต่อกิโลกรัม ลดลง 2.0 เยนต่อกิโลกรัม และส่งมอบเดือนสิงหาคม อยู่ที่ 209.9 เยนต่อกิโลกรัม ลดลง 1.7 เยนต่อกิโลกรัม


- ตลาด SICOM เปิดตลาดที่ 171.0 เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม ลดลง 3.3 เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม


8. ข่าว


- นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียเปิดเผยว่า ออสเตรเลียได้ตัดสินใจที่จะเข้าร่วมก่อตั้งธนาคารเพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน (AIIB) ที่มีจีนเป็นผู้นำ โดยก่อนหน้านี้ออสเตรเลียหลีกเลี่ยงที่จะเข้าร่วมกับ AIIB เช่นเดียวกับมิตรประเทศอย่างสหรัฐฯ ที่แสดงท่าทีชัดเจนว่าไม่เห็นด้วยกับการมี AIIB เพราะสหรัฐฯ มองว่าเป็นความพยายามของจีนในการแผ่ขยายอิทธิพลในภูมิภาค และท้าทายระบบการเงินโลกที่มีสหรัฐฯ เป็นผู้นำ


- ประธานาธิบดีจีนเปิดเผยว่า จีนจะนำเข้าสินค้ามากกว่า 10 ล้านล้านดอลล่าร์สหรัฐ ในช่วง 5 ปีข้างหน้า ซึ่งจะเป็นการมอบโอกาสทางการค้า การเติบโต การลงทุน และความร่วมมือสำหรับประเทศต่าง ๆ ทั้งในเอเซียและภูมิภาคอื่น ๆ


9. ข้อคิดเห็นของผู้ประกอบการ


- ราคายางน่าจะทรงตัวหรือเปลี่ยนแปลงในช่วงแคบ ๆ แต่ก็มีโอกาสสูงขึ้นได้ เพราะปริมาณยางมีน้อย ขณะที่ยังมีความต้องการ ดังนั้นแม้ว่าราคา TOCOM จะปรับลดลงก็ยังไม่กระทบต่อราคายางมากในระยะนี้


แนวโน้ม ราคายางมีแนวโน้มปรับตัวลดลงตามตลาดล่วงหน้าโตเกียวและราคาน้ำมัน ประกอบกับนักลงทุนวิตกกังวลหลังจากญี่ปุ่นเปิดเผยว่าผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนกุมภาพันธ์ปรับลดลงเกินคาด และภาพรวมด้านการผลิตของจีนซึ่งเป็นประเทศผู้ใช้ยางมากที่สุดในโลกยังคงชะลอตัว อย่างไรก็ตาม สต๊อคยางจีนที่ลดลงแตะระดับ 146,727 ตัน (27 มีนาคม 2558) จากระดับ 149,116 ตัน (20 มีนาคม 2558) และอุปทานยางที่มีน้อยในช่วงฤดูยางผลัดใบ อาจเป็นปัจจัยหนุนให้ราคายางปรับตัวสูงขึ้นได้ในช่วงแคบ ๆ


 


ทีมวิเคราะห์สำนักงานตลาดกลางยางพาราสงขลา
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 30, 2015, 11:30:40 AM โดย Rakayang.Com »