ผู้เขียน หัวข้อ: วิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อราคายาง วันอังคารที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2558  (อ่าน 863 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 88303
    • ดูรายละเอียด

วิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อราคายาง
วันอังคารที่  21  เมษายน  พ.ศ. 2558


ปัจจัย

วิเคราะห์   
1. สภาพภูมิอากาศ
 
- ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด ลักษณะเช่นนี้ทำให้มีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกรรโชกแรง และลูกเห็บตกได้ในบางพื้นที่ ส่วนภาคใต้มีเมฆบางส่วนกับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งร้อยละ   10 ของพื้นที่
 
2. การใช้ยาง
 
- บริษัทโตโยต้ามอเตอร์ประกาศจะสร้างโรงงานใหม่ในเม็กซิโกเป็นเงิน   1,000 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ หลังจากที่ได้หยุดขยายการลงทุนมานาน 3 ปี นอกจากนี้บริษัทจะเพิ่มสายการผลิตใหม่ในโรงงานที่มีอยู่ในภาคใต้ของจีน โดยคาดว่าจะเริ่มได้ในปี 2559 โดยเน้นผลิตรถยนต์โคโรลาและเทคโนโลยีใหม่ และจะปรับโครงสร้างสายการผลิตที่มีอยู่ในบริษัทที่ร่วมทุนกับโตโยต้าในจีน โดยมีแผนสร้างโรงงานเพิ่มภายในปี 2560
 
3. สต๊อคยาง
 
- สต๊อคยางจีน ณ วันที่ 17 เมษายน   2558 ลดลง 4,259 ตัน หรือลดลงร้อยละ 3.00 อยู่ที่ 137,866 ตัน จากระดับ 142,125   ตัน เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2558
 
4. เศรษฐกิจโลก
 
- สำนักงานสถิติแห่งชาติเยอรมันเปิดเผยว่า   ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนมีนาคมปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบเป็นรายเดือน แต่ปรับลดลงเมื่อเทียบเป็นรายปี โดยดัชนี PPI   เดือนมีนาคมเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.1 เมื่อเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นราวร้อยละ 0.2
- รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศคงระดับการประเมินเศรษฐกิจของประเทศในเดือนเมษายน แม้ว่าผลผลิตและการส่งออกจะอ่อนแรง ขณะที่การใช้จ่ายภาคเอกชนซบเซาหลังการปรับเพิ่มภาษีบริโภคเมื่อเดือนเมษายน ปีที่แล้ว
- สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรปเปิดเผยว่า การก่อสร้างในกลุ่มประเทศยูโรโซนเดือนกุมภาพันธ์ลดลงจากเดือนมกราคมร้อยละ 1.8   และลดลงร้อยละ 3.7 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้เศรษฐกิจในภูมิภาคฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องก็ตาม และตัวเลขที่ลดลงชี้ให้เห็นว่าภาคธุรกิจและครัวเรือนยังคงระมัดระวังเกี่ยว กับการลงทุนใหม่   ๆ
- ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขาชิคาโก เปิดเผยดัชนีกิจกรรมการผลิตทั่วประเทศประจำเดือนมีนาคมลดลงสู่ระดับ -0.42 จาก   -0.18 ในเดือนกุมภาพันธ์ แสดงถึงการชะลอตัวของการผลิตและการจ้างงาน
- ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขานิวยอร์ก   กล่าว่า การปรับตัวของเศรษฐกิจจะเป็นปัจจัยตัดสินว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เมื่อใด   ขณะที่เขาคาดว่าจะมีการปรับขึ้นในปีนี้ และเขายังกล่าวแสดงความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะยังคงมีการขยายตัวและเงินเฟ้อจะปรับตัวขึ้นในช่วงปีนี้
 
5. อัตราแลกเปลี่ยน
 
- เงินบาทอยู่ที่ 32.43 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ อ่อนค่าลง 0.06   บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ
- เงินเยนอยู่ที่ 119.45 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ อ่อนค่าลง   0.52 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ
 
6. ราคาน้ำมัน
 
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาด Nymex ส่งมอบเดือนพฤษภาคม ปิดตลาดที่ 56.38 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น   0.64 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล เนื่องจากนักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานล้นตลาด หลังมีรายงานว่าจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากนี้ยังได้รับแรงหนุนจากที่จีนประกาศใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการ ปรับลดอัตรากันสำรองของธนาคารพาณิชย์   (RRR) ลงอีกร้อยละ 1.0
- ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (Brent) ตลาดลอนดอน ส่งมอบเดือนมิถุนายน ปิดที่ 63.45 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล โดยราคาอยู่ระดับทรงตัวไม่เปลี่ยนแปลง
- เจ้าหน้าที่ไนจีเรียและอัลจีเรีย ซึ่งเป็นสมาชิกกลุ่มผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) คาดว่าราคาน้ำมันยังมีแนวโน้มเคลื่อนไหวในระดับต่ำเป็นเวลานาน หลังจากที่ลดลงกว่าร้อยละ 40.0 เมื่อปีที่แล้ว ทั้งไนจีเรียและอัลจีเรียต่างมองว่าราคาน้ำมันปัจจุบันเคลื่อนไหวอยู่ประมาณ 60 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล จะไม่ปรับตัวขึ้นแตะระดับเดียวกับในช่วงปี 2554 - 2556 หรือที่ระดับสูงกว่า 100 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล
 
7. การเก็งกำไร
 
- ราคาตลาด TOCOM ส่งมอบเดือนพฤษภาคม อยู่ที่ 200.9 เยนต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้น   3.4 เยนต่อกิโลกรัม และส่งมอบเดือนกันยายน อยู่ที่ 201.0 เยนต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้น   4.5 เยนต่อดอลล่าร์สหรัฐ- ตลาด SICOM เปิดตลาดที่ 166.7 เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม   เพิ่มขึ้น 0.2 เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม
 
8. ข่าว
 
- ไคซิน นิตยสารการเงินของจีนรายงานว่า ธนาคารกลางจีนอัดฉีดเงินตราต่างประเทศเข้าสู่ธนาคารของรัฐ เพื่อสนับสนุนแผนการพัฒนาในต่างประเทศของรัฐบาล โดยระบุว่าธนาคารกลางจีนจะอัดฉีดเงิน 3.2 หมื่นล้านดอลล่าร์สหรัฐเข้าสู่ธนาคารไชน่าดีเวล็อปเมนท์ แบงค์ (CDB) และอัดฉีด 3.0   หมื่นล้านดอลล่าร์สหรัฐเข้าสู่ธนาคารเอ็กซ์พอร์ท - อิมพอร์ท แบงค์ ออฟ ไชน่า (EXIM)- ประธานธนาคารกลางยุโรป   (ECB.) ปฏิเสธกระแสคาดการณ์ที่ว่ากรีซจะถูกบังคับให้ออกจากกลุ่มยูโรโซน ซึ่งถือเป็นการเน้นย้ำถึงสถานภาพที่ไม่เปลี่ยนแปลงของยูโรโซน
 
9.   ข้อคิดเห็นของผู้ประกอบการ
 
- ราคายางปรับตัวสูงขึ้น   เนื่องจากผลผลิตยังคงออกสู่ตลาดน้อย และการเปิดกรีดยางรอบใหม่อาจล่าช้ากว่าทุกปี เพราะหลายพื้นที่ยังคงมีสภาพอากาศร้อนและแห้งแล้ง ต้องรอฝนที่ตกหนักมากจึงจะเปิดกรีดได้
 
   แนวโน้ม ราคายางมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นตามตลาดล่วงหน้าโตเกียว ราคาน้ำมัน และเงินเยนอ่อนค่า ประกอบกับนักลงทุนขานรับข่าวธนาคารกลางจีนตัดสินใจใช้มาตรการกระตุ้น เศรษฐกิจด้วยการปรับลดอัตรากันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ลงอีกร้อยละ 1.0 นอกจากนี้สภาพอากาศที่ร้อนและแห้งแล้งอาจทำให้หลายพื้นที่ต้องเปิดกรีดยาง รอบใหม่ล่าช้ากว่าทุกปี

ทีมวิเคราะห์สำนักงานตลาดกลางยางพาราสงขลา