'กนย.'รับข้อเสนอเกษตรกรยุบกองทุนบัฟเฟอร์ฟันด์ยาง
กนย. ทบทวนมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยาง หลังเกษตรกรใช้ประโยชน์ได้ไม่เต็มที่ รับข้อเสนอตัวแทนเกษตรกรยุบกองทุนบัฟเฟอร์ฟันด์ เพิ่มวงเงินสินเชื่อโค่นยางและปรับปรุงสวนยาง ย้ำมีสัญญาซื้อขายยางกับจีนรวม 4 แสนตัน
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ (กนย.) ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานว่า ที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณาทบทวนมาตรการต่างๆ ที่ได้ทำมาแล้วในฤดูกาลผลิตยาง 2557/2558 และได้เตรียมการรองรับฤดูกาลผลิตยางปี2558/2559 ที่กำลังจะเริ่มต้นในเดือน พ.ค.นี้
ที่ผ่านมาพบว่า มีมาตรการที่ใช้วงเงินให้เกษตรกรได้ใช้ประโยชน์ เช่น มาตรการให้สินเชื่อสหกรณ์การเกษตร หรือวิสาหกิจชุมชนกู้ในอัตราดอกเบี้ยต่ำ เพื่อนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการรวบรวมหรือรับซื้อยางจากเกษตรกรชาว สวนยาง 1 หมื่นล้านบาท และมาตรการให้สินเชื่อสหกรณ์การเกษตรกู้ในอัตราดอกเบี้ยต่ำ เพื่อแปรรูปยาง 5,000 ล้านบาท สหกรณ์การเกษตรได้ขอกู้เงินจำนวน ดังกล่าวไปแล้วประมาณ 2,000 ล้านบาท ซึ่งถือว่าไม่มากนัก เนื่องจากสหกรณ์การเกษตรยังไม่คุ้นเคยกับการแปรรูปยาง จึงสั่งให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) และสภาเกษตรกรแห่งชาติไปหาแนวทางส่งเสริมให้สหกรณ์ต่างๆ มาขอสินเชื่อและแปรรูปยางพารามากขึ้นในฤดูการผลิตนี้ สำหรับมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรโดยใช้โครงการสร้างมูลภัณฑ์กันชนรักษา เสถียรภาพราคายาง ที่อนุมัติวงเงินให้ซื้อยางในราคานำตลาด (บัฟเฟอร์ฟันด์) เกษตรกรชาวสวนยางที่เข้าร่วมประชุมได้ให้ข้อมูลกับรัฐบาลและเสนอให้ยกเลิก การใช้โครงการบัฟเฟอร์ฟันด์ เนื่องจากขณะนี้ราคายางสูงขึ้นแล้ว และเสนอให้นำวงเงินจากบัฟเฟอร์ฟันด์มาใช้กับมาตรการ อื่นๆ ทดแทน
เช่น เพิ่มวงเงินมาตรการให้สินเชื่อเกษตรกรครัวเรือนละ 100,000 บาท เพื่อให้เกษตรกรโค่นยางเก่าและทำอาชีพเสริมแทน ที่ปัจจุบันมีวงเงินรวม 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งขณะนี้รัฐบาลได้จ่ายเงินให้เกษตรกรแล้ว 4 หมื่นราย และได้อนุมัติเงินกู้เกษตรกรอีก 4 หมื่นราย รวมวงเงิน 8,000 ล้านบาท โดยยังเหลือวงเงินอีก 2,000 ล้านบาท คาดว่าจะอนุมัติสินเชื่อเกษตรกรครบในเดือนมิ.ย.นี้
ทั้งนี้รัฐบาลอาจเพิ่มวงเงินการให้สินเชื่อตามที่เกษตรกรชาวสวนยางเสนอ ส่วนการยกเลิก บัฟเฟอร์ฟันด์รัฐบาลกำลังพิจารณาความเหมาะสม ม.ร.ว.ปรีดิยาธรยังกล่าวถึงสต็อกยางของรัฐบาลว่าปัจจุบันมีสต็อกยาง อยู่ 2 ส่วน คือ 1.สต็อกยางเก่าจากรัฐบาลสมัยที่แล้วประมาณ 200,000 ตัน และ 2.สต็อกที่องค์การสวนยาง (อสย.) ใช้ในระหว่างโครงการบัฟเฟอร์ฟันด์ซื้อยางจากเกษตรกร 140,000 ตัน รวมแล้วทั้งหมด 340,000 ตัน ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ ได้เจรจาและทำสัญญาขายยางให้จีนแล้วจำนวน 400,000 ตัน
นายอำนวย ปะติเส รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า โครงการบัฟเฟอร์ฟันด์ที่เกษตรกรเสนอให้ยกเลิกนั้น เนื่องจากมีการปรับโครงการใหม่ ด้วยการซื้อยางจากเกษตรกรรายย่อยโดยตรง จากเดิมที่รัฐบาลให้ อสย.ดำเนินการซื้อยางจากเกษตรกรรายย่อยผ่านตลาดกลางยางพารา แต่เกษตรกรได้บอกว่า หากจะซื้อยางโดยตรงจากเกษตรกรรายย่อย ก็ขอให้ออกมาตรการประกันราคาหรือชดเชยส่วนต่างราคายางให้ชาวสวนยางจะ ง่ายกว่า ซึ่งรัฐบาลจะรับไว้พิจารณา
กรุงเทพธุรกิจ (Th)
