เฮจด์ฟันแห่ขายฟิวเอจร์ น้ำมันหลุดต่ำ 30ดอลล์
ที่มา Money Channel วันที่ 3/2/59
ราคาน้ำมันต่ำกว่า 30 ดอลลาร์อีกครั้ง กองทุนเฮจด์ฟันด์ยังปรับลดจำนวนสัญญาเก็งกำไรราคาน้ำมันล่วงหน้าลงต่อเนื่อง ถึงแม้ราคาน้ำมันดิบจะกลับมาอ่อนตัวลงอีกรอบ
น้ำมันลงแรงต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ติดต่อกันในวันอังคาร โดยราคาน้ำมันดิบสหรัฐฯ ลงไปเคลื่อนไหวต่ำกว่า 30 เหรียญ/บาร์เรล อีกครั้ง หลังสถาบันปิโตรเลียมอเมริกัน (API) เปิดเผยสต๊อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 3.8 ล้านบาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมีนาคม ลดลง 1.74 ดอลลาร์ หรือลดลง 5.5% ปิดที่ 29.88 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล กลับมาต่ำกว่า 30 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 21 มกราคม ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเมษายน ลดลง 1.79 ดอลลาร์ หรือ 5.23% ปิดที่ 32.43 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
กองทุนเฮจด์ฟันด์ยังปรับลดจำนวนสัญญาเก็งกำไรราคาน้ำมันล่วงหน้าลงต่อเนื่อง ถึงแม้ราคาน้ำมันดิบได้กลับมาอ่อนตัวลงอีกรอบในสัปดาห์ที่แล้วท่ามกลางการคาดคะเนในตลาดว่ารัสเซียและโอเปคกำลังใกล้ที่จะร่วมมือกันลดการผลิตน้ำมัน
นักวิเคราะห์หลายคนชี้ว่าโอกาสที่จะมีการร่วมมือกันลดการผลิตมีน้อย แต่อย่างไรก็ตาม การคาดคะเนดังกล่าวได้เพิ่มความไม่แน่นอนให้กับตลาดและทำให้ทิศทางของราคาในตลาดฟิวเจอร์ไม่มีความชัดเจน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ราคาของตลาดนี้อยู่ในด้านขาลงด้านเดียว
กองทุนเฮจด์ฟันด์และผู้บริหารกองทุนต่างๆได้ลดจำนวนการทำชอร์ตราคาน้ำมันผ่านสัญญาฟิวเจอร์หลักของน้ำมันดิบ WTI และ Brent ทั้ง 3 ประเภทในตลาด Nymex และตลาด ICE Futures Europe ลงรวมกันถึง 29 ล้านบาเรล
เจ้าหน้าที่กำกับตลาดและข้อมูลตลาดฟิวเจอร์ชี้ว่าจำนวนรายการชอร์ตเซลและอ๊อฟชั่นได้ปรับลดลง 7% จาก 376 ล้านบาเรลมาเหลือ 347 ล้านบาเรล
การลดลงของสัญญาฟิวเจอร์ที่ชอร์ตราคาน้ำมันเบรนต์มีให้เห็นได้ชัดเจนที่สุด โดยรายการที่ทำชอร์ตมีลดลงรวม 34 ล้านบาเรล หรือลดลง 25% จากระดับของสัปดาห์ที่แล้ว
ราคาสัญญาฟิวเจอร์ WTI ส่งมอบ มี.ค. ได้ทะยานขึ้น 1.88 ดอลลาร์/บาเรล แต่ราคาฟิวเจอร์ Brent ส่งมอบเดือน มี.ค. พุ่งขึ้น 3.04 ดอลลาร์/บาเรลในช่วงสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 26 ม.ค.
ถึงแม้หลังจากมีอุปสงค์ในตลาดฟิวเจอร์ใน 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาในการหาสัญญาล่วงหน้ามาส่งมอบตามพันธะรายการชอร์ต เซลที่ทำไว้ก่อนหน้า แต่จำนวนรายการชอร์ตเซลของน้ำมัน WTI และ Brent ที่เหลือก็ยังมีสูงมากกว่าปกติ
การพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วของการทำชอร์ตเซลก่อนหน้านี้ในช่วงตั้งแต่กลางเดือน ต.ค. ถึงสัปดาห์ที่ 2 ของ ม.ค. ได้ทำให้ยอดตัวเลขรวมของการทำชอร์ตเซลพุ่งงขึ้นไปถึงเกือบ 400 ล้านบาเรลจากระดับเดิมที่ 200 ล้านบาเรล แต่ตัวเลขที่เพิ่มขึ้นมาดูเหมือนกำลังจะถึงจุดสูงสุดแล้ว
คำถามที่สำคัญที่สุดในขณะนี้คือการระบายรายการชอร์ตเซลจะเร่งตัวขึ้นจนสร้างความแตกตื่นให้กับตลาด และเป็นปัจจัยหนุนราคาน้ำมันให้พุ่งขึ้นต่อมากกว่านี้หรือไม่ หรือว่าการดีดตัวกลับของราคาน้ำมันจะมีเพียงแค่นี้