ผู้เขียน หัวข้อ: การยางฯ จัดเวทีสัมมนาเครือข่ายผู้ผลิตน้ำยางสดฯ หวังพัฒนาทั้งระบบ 5 จังหวัดภาคใต้ (03/05/2560)  (อ่าน 712 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 87637
    • ดูรายละเอียด
การยางฯ จัดเวทีสัมมนาเครือข่ายผู้ผลิตน้ำยางสดฯ หวังพัฒนาทั้งระบบ 5 จังหวัดภาคใต้ (03/05/2560)

วันพุธที่ 03 พฤษภาคม 2017 เวลา 10:16 น.



การยางฯ จัดเวทีสัมมนาเครือข่ายผู้ผลิตน้ำยางสดฯ ในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ 5 จังหวัด หวังพัฒนาตลาดน้ำยางสดทั้งระบบเป็นเมืองต้นแบบสามเหลี่ยมแห่งความมั่งคั่ง มั่นคง ยั่งยืน


วันนี้ (2 พฤษภาคม 2560) การยางแห่งประเทศไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จัดเวทีสัมมนาเครือข่ายผู้ผลิ ตน้ำยางสดและพนักงานผู้รับผิ ดชอบในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจั งหวัดชายแดนภาคใต้ทั้ง 5 จังหวัด ได้แก่ สงขลา สตูล ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส มีเกษตรกรชาวสวนยาง ตัวแทนกลุ่มสถาบันเกษตรกร และพนักงาน กยท. ที่เกี่ยวข้องรวมประมาณ 140 คน หวังพัฒนาตลาดน้ำยางสด ซึ่งเป็นผลผลิตหลั กของเกษตรกรชาวสวนยางในพื้นที่ ภาคใต้ ให้มีการพัฒนาทั้งระบบสอดคล้ องกับนโยบายรัฐบาลที่จะพั ฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นเมืองต้นแบบสามเหลี่ยมแห่ งความมั่งคั่ง มั่นคง ยั่งยืน ซึ่งจะส่งผลต่อเศรษฐกิจของชาติ ต่อไป ภายใต้หลักการเข้าใจ เข้าถึง พัฒนา ที่เกิดจากความมีส่วนร่วมจากทุ กภาคส่วน ณ โรงแรม ลี การ์เด้นส์ พลาซ่า อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

นายธีรวัฒน์ เดชทองคำ รองผู้ว่าการการยางแห่ งประเทศไทย ประธานการจัดสัมมนาครั้งนี้ กล่าวว่า การประชุมสัมมนาเครือข่ายผู้ผลิ ตน้ำยางสดและพนักงานผู้รับผิ ดชอบในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจั งหวัดชายแดนใต้ ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล และเป็นไปตามแผนวิสาหกิ จของการยางแห่งประเทศไทย (พ.ศ. 2560-2564) สอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพั ฒนายางพาราตลอดห่วงโซ่อุปทาน และห่วงโซ่คุณค่า เพื่อเป็นการปรับปรุงการผลิ ตยางพารา สนับสนุนการผลิตวัตถุดิบที่มีคุ ณภาพ และพัฒนาระบบตลาดให้มีประสิทธิ ภาพ เพื่อช่วยในการขับเคลื่ อนการดำเนินงานพัฒนาสถาบั นเกษตรกรในการสร้างเครือข่ายผู้ ผลิตน้ำยางสด รวมไปถึงบทบาทสำคัญในการช่วยขั บเคลื่อนนโยบายรัฐในการพั ฒนายางพาราของประเทศ ซึ่งจะเป็นการช่วยแก้ปั ญหาโดยการใช้หลักความเข้าใจ เข้าถึง และพัฒนาเกษตรกรชาวสวนยางให้มี ประสิทธิภาพและสอดรับกั บนโยบายรัฐบาล โดยมุ่งหวังให้กลุ่มสถาบั นเกษตรกรให้ความร่วมมือกันเพื่ อยกระดับการพัฒนาเครือข่ายน้ำ ยางสดให้มีความมั่นคง สามารถดำเนินงานด้ านตลาดยางพาราทั้งระบบได้อย่ างเกิดประโยชน์สูงสุด และเป็นกำลังหลักที่จะพัฒนาอาชี พการทำสวนยางให้มีความยั่งยืน จะส่งผลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจชาติ เพื่อรองรับและเชื่อมโยงการเติ บโตของตลาดยางพาราโลกในอนาคต

?ขอให้เกษตรกรชาวสวนยางทุกท่าน ไว้วางใจใน กยท. แม้ว่า เราจะเป็นองค์กรใหม่ ที่เพิ่งหลอมรวมกัน แต่เรามีความพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของพี่น้ องเกษตรกรชาวสวนยาง ล่าสุด กยท.ได้มีการผลักดันค่าใช้จ่ ายในการส่งเสริมและสนับสนุ นสถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง พ.ศ.2560 ได้แก่ การให้กู้ยืมเงิน เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรั บประกอบอาชีพการทำสวนยางทั้ งเกษตรกรชาวสวนยาง สถาบันเกษตรกรชาวสวนยางและผู้ ประกอบกิจการยางในการแปรรูปพั ฒนา รวบรวมผลผลิต การจัดสวัสดิการเพื่อเกษตรกรชาวสวนยาง ประสบภัย ธรรมชาติ และอื่นๆ การส่งเสริมและสนับสนุนสถาบั นเกษตรกรชาวสวนยาง ในการรวมกลุ่ม และประกอบกิจกรรมต่างๆ นำไปสู่ความเข้มแข็งและยั่งยืน ซึ่งได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา พร้อมมีผลบังคับใช้ทันที เกษตรกรชาวสวนยางสามารถยื่ นคำขอได้แล้วทั่วประเทศ รวมถึงสถาบั นเกษตรกรชาวสวนยางและผู้ประกอบกิจการยางเช่นกัน? นายธีรวัฒน์ กล่าวย้ำ

ด้านนายจำนัล เหมือนดำ เลขานุการผู้แทนพิเศษของรัฐบาล (ครม.ส่วนหน้า) เปิดเผยว่า ตามมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่ อวันที่ 4 ตุลาคม 2559 ก่อให้เกิดโครงการเมืองต้ นแบบสามเหลี่ยมแห่งความมั่งคั่ง มั่นคง ยั่งยืน ประกอบด้วย อำเภอเบตง อำเภอสุไหงโกลก อำเภอหนองจิก ซึ่งจะเชื่อมโยงภาคการเกษตร อุตสาหกรรม และการพาณิชย์ เพื่อการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทยทั้ งในเรื่อง การคมนาคม เศรษฐกิจ สังคม โดยมุ่งเน้นเข้าสู่การพัฒนายุ คใหม่ ไทยแลนด์ 4.0 ภายในปี 2560-2562 โดยมีผู้แทนพิเศษของรั ฐบาลจากหน่วยงานต่างๆ มาเป็นคณะกรรมการ 7 กลุ่มภารกิจงาน  ประกอบด้วย 1. งานรักษาความปลอดภัยในชีวิ ตและทรัพย์สิน 2.งานอำนวยความยุติธรรมและเยี ยวยาผู้ได้รับผลกระทบ 3. งานสร้างความเข้าใจทั้งในและต่ างประเทศ/เรื่องสิทธิมนุษยชน 4.งานการศึกษา ศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม 5. งานพัฒนาตามศักยภาพของพื้นที่ และคุณภาพชีวิตประชาชน 6. งานเพิ่มประสิทธิภาพภาครัฐ และการขับเคลื่อนนโยบาย 7. งานแสวงหาทางออกจากความขัดแย้ งโดยสันติวิธี เหล่านี้ล้วนมีผลต่อการอยู่ร่วมกัน เข้าใจกันและไม่แตกแยกกัน ซึ่งจำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากประชาชน จึงจะทำให้ความเป็นอยู่ของคนไทยทุกคนดีขึ้น

นายจำนัล กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัญหาที่สำคัญของภาคเกษตรกรไทยที่นับว่าเป็ นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิ ดผลกระทบต่อผลผลิตและราคาที่ ตามมา และเป็นที่สั่งสมมาอย่างยาวนานนั่นคือ ค่านิยม ทัศนคติเดิมของเกษตรกร ประกอบกับระบบราชการไทยที่ค่อนข้างล้มเหลวในการส่งเสริ มแบบให้ฟรี เน้นปริมาณแจกจ่ายให้เยอะแต่ไม่ ให้ความสำคัญเรื่องคุณภาพ ทำให้ผลผลิตที่ออกสู่ตลาดอาจมีคุณภาพต่ำกว่าที่ควรจะเป็น หรือไม่สามารถผลิตผลผลิตออกมาให้เกิดประโยชน์ได้ เช่น การรับแจกเมล็ดพันธุ์ผัก พันธุ์พืช พันธุ์สัตว์ เป็นต้น ฉะนั้น เพื่อให้เกษตรกรสามารถผลิตสินค้าที่มีคุณภาพได้ มาตรฐานออกมาจำหน่ายสู่ท้องตลาด แนวทางการส่งเสริมให้ ภาคเกษตรรวมกลุ่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อาชีพการทำสวนยาง นอกจากจะได้แลกเปลี่ยนความรู้ และพัฒนาอาชีพแล้ว ยังสร้างความเข้มแข็งและเกิดอำนาจต่อรองจากผู้ซื้อได้ ภาครัฐจึงจำเป็นต้องผลักดันให้เกษตรกรรวมกลุ่มให้มาก
ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ (2 พ.ค. 60)