ผู้เขียน หัวข้อ: ช็อคโลก!ราคาน้ำมันทรุด55ดอลล์ปิดลบครั้งแรกในประวัติศาสตร์ฉุดดาวโจนส์ร่วงเกือบ 600 จุด ดันทองพุ่ง  (อ่าน 463 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 82789
    • ดูรายละเอียด

ช็อคโลก!ราคาน้ำมันทรุด55ดอลล์ปิดลบครั้งแรกในประวัติศาสตร์

21 เมษายน 2563

สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าเวสต์เท็กซัส ปิดตลาดวันจันทร์(20เม.ย.) ทรุดตัวลงอย่างหนัก ราคาทรุดลงถึง 55 ดอลลาร์ ปิดตลาดในแดนลบเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การค้าน้ำมัน

ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์น้ำมันที่ลดลงจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากการที่คลังเก็บน้ำมันของสหรัฐกำลังกักเก็บน้ำมันใกล้เต็มความจุ ท่ามกลางภาวะน้ำมันล้นตลาด ขณะที่สต็อกน้ำมันสหรัฐพุ่งขึ้นเป็นประวัติการณ์

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนพ.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ และหมดอายุในวันอังคาร(21เม.ย) ลดลง 55.90 ดอลลาร์ ปิดที่ -37.63 ดอลลาร์/บาร์เรล ถือเป็นการปรับลดวันเดียวมากที่สุดในประวัติศาสตร์ย้อนกลับไปตั้งแต่ปี 2526 ทั้งยังเป็นราคาต่ำที่สุดในวัติศาสตร์

ขณะที่งวดส่งมอบเดือนมิ.ย. ปรับตัวลง 4.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 20.03 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 2.51 ดอลลาร์ ปิดที่ 25.57 ดอลลาร์/บาร์เรล

ทั้งนี้ สำนักงานพลังงานสากล (ไออีเอ) ออกรายงานระบุว่า วิกฤตการณ์จากแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จะส่งผลกระทบทำให้อุปสงค์น้ำมันลดลง 29 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนเม.ย. แตะระดับต่ำสุดในรอบ 25 ปี ขณะที่ประเทศต่างๆพากันออกมาตรการจำกัดการเดินทางเพื่อควบคุมการระบาดของโควิด-19

ด้านโกลด์แมน แซคส์ ระบุว่า การที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส บรรลุข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันเพียง 9.7 ล้านบาร์เรล/วัน ถือว่าน้อยเกินไป และยังไม่มากพอที่จะช่วยชดเชยผลกระทบของอุปสงค์น้ำมันที่ทรุดตัวลงอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา

โกลด์แมน แซคส์ คาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกจะยังคงร่วงลงในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า เนื่องจากสต็อกน้ำมันยังคงปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว แม้ว่าโอเปกพลัสได้บรรลุข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตเพื่อลดอุปทานน้ำมันในตลาดโลกก็ตาม

***ดาวโจนส์ร่วงเกือบ 600 จุดเหตุราคาน้ำมันทรุดฉุดตลาด

ดัชนีดาวโจนส์ ปิดตลาดวันจันทร์(20เม.ย.)ปรับตัวร่วงลงเกือบ 600 จุดโดยได้รับผลกระทบจากการทรุดตัวของราคาน้ำมันที่ดิ่งลงจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ร่วงลง 592.05 จุดหรือ 2.5% ปิดที่ 23,650.44 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลบ 1.8% ปิดที่ 2,823.16 จุด และดัชนีแนสแด็ก ทรุด 1% ปิดที่ 8,560.73จุด

ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มพลังงานดิ่งลงอย่างหนักตามการร่วงลงของราคาน้ำมัน โดยสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าเวสต์เท็กซัส ทรุดตัวลงกว่า 38% ใกล้หลุดระดับ 11 ดอลลาร์ แตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 21 ปี ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์น้ำมันที่ดิ่งลงจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากการที่คลังเก็บน้ำมันของสหรัฐกำลังกักเก็บน้ำมันใกล้เต็มความจุ ท่ามกลางภาวะน้ำมันล้นตลาด ขณะที่สต็อกน้ำมันสหรัฐพุ่งขึ้นเป็นประวัติการณ์

นักลงทุนจับตาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยยอดผู้ติดเชื้อทั่วโลกมากกว่า 2,400,000 ราย และเสียขีวิตกว่า 165,000 ราย ขณะที่สหรัฐติดอันดับ 1 ของโลกทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิต

นายเดวิด ไบลิน หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของซิตี้ กรุ๊ป กล่าวว่า ตลาดหุ้นสหรัฐอาจฟื้นตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดที่ทำไว้ในช่วงที่ผ่านมา แต่ตลาดอาจปรับตัวย่ำแย่ลงในระยะต่อไป

?ตลาดยังไม่ได้ปรับตัวรับสถานการณ์ที่เราอาจเผชิญกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รอบสองในสหรัฐ ซึ่งจะทำให้มีการปิดเศรษฐกิจต่อไป? นายไบลิน กล่าว

นอกจากนี้ เขายังระบุว่า ?อีกสิ่งหนึ่งที่ตลาดยังไม่ได้ปรับตัวรับคือความจริงที่ว่า ไวรัสนี้อาจใช้เวลาอีก 18-24 เดือนในการแพร่ระบาดไปทั่วโลก ก่อนที่เราจะมีวัคซีนต้านไวรัส?

ด้านนายสตีเฟน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ กล่าวว่า ทำเนียบขาวและสภาคองเกรสใกล้บรรลุข้อตกลงในการปล่อยสินเชื่อรอบที่ 2 ให้กับธุรกิจรายย่อย หลังจากมีการเปิดตัวโครงการปล่อยสินเชื่อรอบแรกวงเงิน 3.49 แสนล้านดอลลาร์

***ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดบวก $12.4 นักลงทุนรุกซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหลังราคาน้ำมัน-ตลาดหุ้นทรุด

          สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นมายืนที่เหนือระดับ 1,700 ดอลลาร์/ออนซ์เมื่อคืนนี้ (20 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะที่ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐและราคาน้ำมัน WTI ร่วงลงอย่างหนัก ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
          สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 12.4 ดอลลาร์ หรือ 0.73% ปิดที่ 1,711.2 ดอลลาร์/ออนซ์
          สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 31.9 เซนต์ หรือ 2.09% ปิดที่ 15.614 ดอลลาร์/ออนซ์
          สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 10.7 ดอลลาร์ หรือ 1.36% ปิดที่ 796 ดอลลาร์/ออนซ์
          สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 3.40 ดอลลาร์ หรือ 0.2% ปิดที่ 2,127.50 ดอลลาร์/ออนซ์
          นักลงทุนเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กดิ่งลงกว่า 500 จุด ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ทรุดตัวลงแตะระดับติดลบเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เริ่มมีการซื้อขายสัญญาน้ำมันในตลาด NYMEX เนื่องจากความกังวลที่ว่า การที่รัฐบาลทั่วโลกใช้มาตรการล็อกดาวน์ จะส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันทรุดตัวลง นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากการที่คลังน้ำมันของสหรัฐกำลังกักเก็บน้ำมันใกล้เต็มความจุ ท่ามกลางภาวะน้ำมันล้นตลาด
          นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐยังเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยหนุนคำสั่งซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย โดยธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโก เปิดเผยว่า ดัชนี Chicago Fed National Activity Index (CFNAI) ดิ่งลงสู่ระดับ -4.19 ในเดือนมี.ค. หลังจากแตะระดับ +0.06 ในเดือนก.พ.
          ทั้งนี้ ดัชนี CFNAI เป็นดัชนีถ่วงน้ำหนักตัวชี้วัดกิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐจำนวน 85 รายการ โดยดัชนี CFNAI ที่มีค่าเป็นบวกจะบ่งชี้ถึงการขยายตัวของเศรษฐกิจที่สูงกว่าแนวโน้ม ขณะที่ดัชนี CFNAI ที่มีค่าเป็นลบจะบ่งชี้ถึงการขยายตัวของเศรษฐกิจที่ต่ำกว่าแนวโน้ม