ผู้เขียน หัวข้อ: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ข่าวหุ้น-การเงิน 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2563  (อ่าน 901 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 90011
    • ดูรายละเอียด

***'ราคาน้ำมัน' ลดลง 2% วิตกข้อมูลว่างงานสหรัฐ

24 กรกฎาคม 2563 
ราคาน้ำมันดิบโลกปรับลดลง 2% ในวันพฤหัสบดี (23 ก.ค.) หลังสหรัฐรายงานว่าสต็อกน้ำมันดิบสำรองเพิ่มขึ้นเกินคาด และยอดติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มต่อเนื่องในสหรัฐ

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส งวดส่งมอบเดือน ก.ย. ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดที่ 41.07 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง 83 เซ็นต์ (2%) ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ งวดส่งมอบเดือน ก.ย. ปิดที่ 43.31 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง 98 เซ็นต์ (2.2%)

เงินดอลลาร์ซื้อขายแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน ก.ย. 2561 เมื่อเทียบกับตะกร้าเงิน ถึงแม้ปกติแล้วดอลลาร์ที่อ่อนค่า จะกระตุ้นอุปสงค์สินค้าโภคภัณฑ์ที่ซื้อขายกันด้วยเงินสกุลดอลลาร์ แต่ในวันพฤหัสบดี (23 ก.ค.) ตลาดน้ำมันดิบโลกถูกฉุดลงด้วยปัจจัยอื่น เช่น คลังน้ำมันสำรอง ตัวเลขคนว่างงาน และยอดผู้ติดเชื้อโควิดที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐ


ขณะที่ กระทรวงแรงงานสหรัฐ รายงานเมื่อวันพฤหัสบดี (23 ก.ค.) ว่า มีผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจำนวน 1.416 ล้านรายในสัปดาห์ที่แล้ว สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.3 ล้านราย


นอกจากนั้น ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในวันเดียวกัน ยังสูงกว่าที่มีการรายงานในสัปดาห์ที่แล้วที่ระดับ 1.307 ล้านราย ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 4 เดือนที่ตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบรายสัปดาห์ หลังจากพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์สู่ระดับ 6.867 ล้านรายในช่วงปลายเดือน มี.ค.

ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสหรัฐยังคงมีจำนวนมากกว่า 1 ล้านรายติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 18 แล้ว แม้ว่ารัฐต่าง ๆ เริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ และเปิดเศรษฐกิจครั้งใหม่

ขณะเดียวกัน ตัวเลขผู้ป่วยโควิด-19 ของสหรัฐพุ่งทะลุ 4 ล้านคนในวันพฤหัสบดี โดยมีค่าเฉลี่ยพบผู้ติดเชื้อใหม่ 2,600 คนต่อ 1 ชั่วโมง ถือว่าสูงที่สุดในโลก

เมื่อวันพุธ (22 ก.ค.) สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) รายงานว่า คลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศเพิ่มขึ้น 4.9 ล้านบาร์เรล ในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 17 ก.ค. สวนทางกับที่บรรดานักวิเคราะห์คาดหมายว่าน่าจะลดลงราว 1.9 ล้านบาร์เรล

***'ดาวโจนส์' ร่วง 353 จุด กังวลตัวเลขว่างงานสหรัฐ
24 กรกฎาคม 2563
ตลาดหุ้นสหรัฐปิดแดนลบในวันพฤหัสบดี (23 ก.ค.) ขณะที่นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ของสหรัฐ

ดัชนีดาวโจนส์ ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดที่ 26,652.33 จุด ลดลง 353.51 จุด (1.31%) ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,235.66 จุด ลดลง 40.36 จุด (1.23%) ส่วนดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 10,461.42 จุด ลดลง 244.71 จุด (2.29%)

ทั้งนี้ จำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานที่น่าผิดหวังและตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องในสหรัฐ เป็นปัจจัยฉุดตลาดหุ้นสหรัฐปิดแดนลบ

กระทรวงแรงงานสหรัฐ รายงานเมื่อวันพฤหัสบดี (23 ก.ค.) ว่า มีผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจำนวน 1.416 ล้านรายในสัปดาห์ที่แล้ว สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.3 ล้านราย

นอกจากนั้น ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในวันเดียวกัน ยังสูงกว่าที่มีการรายงานในสัปดาห์ที่แล้วที่ระดับ 1.307 ล้านราย ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 4 เดือนที่ตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบรายสัปดาห์ หลังจากพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์สู่ระดับ 6.867 ล้านรายในช่วงปลายเดือน มี.ค.

ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสหรัฐยังคงมีจำนวนมากกว่า 1 ล้านรายติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 18 แล้ว แม้ว่ารัฐต่าง ๆ เริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ และเปิดเศรษฐกิจครั้งใหม่

ข้อมูลภาคแรงงานที่อ่อนแอถูกเผยแพร่ออกมาในช่วงที่บรรดาแกนนำพรรครีพับลิกันในวุฒิสภาและเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาว กำลังพยายามเคาะข้อเสนอเกี่ยวกับมาตรการเยียวยาผลกระทบจากโควิด-19 รอบใหม่ในวันพฤหัสบดี หลังจากแกนนำพรรคเดโมแครตปฏิเสธแนวคิดที่ขอให้ผ่านร่างกฎหมายแยกเป็นส่วน ๆ

ปัญหาติดขัดในความพยายามออกมาตรการเยียวยารอบใหม่ มีขึ้นในขณะที่ตัวเลขผู้ป่วยโควิด-19 ของสหรัฐพุ่งทะลุ 4 ล้านคนในวันพฤหัสบดี โดยมีค่าเฉลี่ยพบผู้ติดเชื้อใหม่ 2,600 คนต่อ 1 ชั่วโมง ถือว่าสูงที่สุดในโลก

***ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดพุ่ง $24.9 นลท.รุกซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหลังสหรัฐ-จีนตึงเครียด
          สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (23 ก.ค.) โดยสัญญาทองคำยังคงทำสถิติปิดที่ระดับสูงสุดในรอบ 9 ปี เนื่องจากนักลงทุนยังคงเดินหน้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีน รวมทั้งความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
          สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. พุ่งขึ้น 24.9 ดอลลาร์ หรือ 1.34% ปิดที่ 1,890 ดอลลาร์/ออนซ์     
          สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 15.6 เซนต์ หรือ 0.67% ปิดที่ 22.988 ดอลลาร์/ออนซ์
          สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 6.4 ดอลลาร์ หรือ 0.67% ปิดที่ 963.8 ดอลลาร์/ออนซ์
          สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 10.8 ดอลลาร์ หรือ 0.5% ปิดที่ 2,239.80 ดอลลาร์/ออนซ์
          สัญญาทองคำทำสถิติปิดในแดนบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 5 เมื่อคืนนี้ โดยได้แรงหนุนจากคำสั่งซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากข้อพิพาทระหว่างสหรัฐและจีนส่งสัญญาณรุนแรงมากขึ้น โดยรัฐบาลสหรัฐสั่งปิดสถานกงสุลจีนที่เมืองฮิวสตัน พร้อมกับกล่าวหาว่าจีนมีส่วนพัวพันในการจารกรรมเทคโนโลยีของสหรัฐ ขณะที่จีนขู่ตอบโต้มาตรการดังกล่าว โดยอาจมีการประกาศลดจำนวนเจ้าหน้าที่สถานกงสุลสหรัฐในฮ่องกง
          ความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยข้อมูลล่าสุดจาก Worldometer ระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกขณะนี้อยู่ที่ 15,403,898 ราย และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 631,003 ราย ขณะที่สหรัฐยังคงติดอันดับ 1 ของโลกทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และผู้เสียชีวิต โดยมีผู้ติดเชื้อจำนวน 4,101,308 ราย และมีผู้เสียชีวิต 146,192 ราย
          นอกจากนี้ การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์เป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อสัญญาทองคำ เนื่องจากทำให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐนั้น มีราคาถูกลงและมีความน่าดึงดูดมากขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่น
          ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.31% สู่ระดับ 94.6906 เมื่อคืนนี้