ผู้เขียน หัวข้อ: "ถ้ามาจริง ต้องให้ถ้วย" ลั่น ได้เห็นยาง แตะ 60 บาทต่อกิโลกรัม บอร์ด กยท.ฟันธง  (อ่าน 1104 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 82926
    • ดูรายละเอียด
"ถ้ามาจริง ต้องให้ถ้วย" ลั่น ได้เห็นยาง แตะ 60 บาทต่อกิโลกรัม บอร์ด กยท.ฟันธง

25 Aug 2020 19:45 น. ที่มา ฐานเศรษฐกิจ

บอร์ดสังข์เวิน ดับข่าว กยท.เทขายยางในสต็อก 1.04 แสนตัน ยันไม่ขายแน่นอน ฟุ้งมีกูรูยางกระซิบว่าจะเห็นราคายางแตะ 60 บาทต่อกิโลกรัม แน่นอน ปัจจัยบวกเพียบ ชาวสวนมีเฮ รอลุ้น

นายสังข์เวิน ทวดห้อย กรรมการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เผยกับ ?ฐานเศรษฐกิจ? ว่า จากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะไฟเขียวให้ กยท.ขายยางในสต็อก 1.04 แสนตันจริง แล้วให้บอร์ดไปหาวิธีการระบายยาง ซึ่งบอร์ดได้มีมติแล้วจะไม่นำยางในสต็อกออกมาขายแน่นอน แล้วจะปล่อยให้ตลาดเดินไปตามกลไกสภาวะในปัจจุบันนี้ ซึ่งบอร์ดในคณะนี้คิดว่าจะนำยางในสต็อกไปใช้ในประเทศ อาทิ นำไปผลิตแผงกั้นแบริเออร์ เป็นต้น

?บอร์ดปัจจุบันยืนยัน จะไม่มีการขายยางเด็ดขาด ผมคนหนึ่งละที่จะค้านไม่ให้ขาย ซึ่งราคายางพาราทุกชนิด ผงกหัวมาได้ขนาดนี้ถือว่าดีที่สุดแล้ว หากไม่กระพือข่าวยางในสต็อก ผู้ประกอบการ แจ้งว่ามีโอกาสที่จะได้เห็นราคายางแตะ 60 บาทต่อกิโลกรัม แน่นอน  เราจะประคองให้ถึงเป้าหมายราคานั้น ซึ่งจะเห็นว่าปริมาณยางที่ออกมาทั้งประเทศนั้นมีน้อยมาก แล้วข่าวที่ภาครัฐออกมากระตุ้นการใช้ยางในประเทศ ล้วนแล้วจะเห็นว่าปัจจัยบวกเพียบเลย?

อนึ่ง การยางแห่งประเทศไทย รายงานสถานการณ์ราคายางพารา ณ วันที่ 25 ส.ค.63 ราคากลางยางพารา ยางแผ่นดิบอยู่ที่ 49.05 บาท/กก. ยางแผ่นรมควันอยู่ที่51.39 บาท/กก. ส่วนราคาประมูลเฉลี่ย ณ ตลาดกลาง ยางพารายางแผ่นดิบอยู่ที่ 16.6 บาท/กก. ราคายาง แผ่นรมควันอยู่ที่ 52.44 บาท/กก.ราคายางมีแนวโน้มปรับตัว เพิ่มขึ้น ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ค่าเงินบาทค่อนอ่อนค่าเป็นปัจจัยสนับสนุนราคายาง ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นหลังอพยพพนักงานออกจากแท่นขุดเพื่อ รับมือกับ พายุ 2 ลูกที่อ่าวเม็กซิโก

ส่วนด้านความต้องการถุงมือ ทางการแพทย์ ถุงยางอนามัย ยางยืด สินค้าบริโภคยังคงมี เพิ่มขึ้น พายุฝนตกในประเทศผู้ผลิตยางแรงงานกรีดและผลิงยาง ขาดแคลนเป็นปัจจัยสนับสนุนราคายาง อย่างไรก็ตามข่าวความคืบหน้าในการพัฒนาวิธีการรักษา โควิด-19 ท้าให้ความตึงเครียดเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของเชื้อ ไวรัสซึ่งเป็นปัจจัยกดดันราคายางระยะนี้บรรเทาลงและอาจ ส่งผลให้เกิดการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้นไม่มากก็น้อย นักลงทุนยังคงต้องติดตามเศรษฐกิจโลกอย่างใกล้ชิด