ผู้เขียน หัวข้อ: "จุรินทร์"โต้ฝ่ายค้าน ลั่นไล่สางทุจริตถุงมือยาง สวนโกงข้าว-มันยุคก่อน เจ๊งกว่า 5 แสนล้านก็ตาม  (อ่าน 557 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 82019
    • ดูรายละเอียด
"จุรินทร์"โต้ฝ่ายค้าน ลั่นไล่สางทุจริตถุงมือยาง สวนโกงข้าว-มันยุคก่อน เจ๊งกว่า 5 แสนล้านก็ตาม

ข่าว20 ก.ค.  ที่มา CNA

?จุรินทร์?ตอกกลับฝ่ายค้าน โกหกกลางสภา คดีถุงมือยางเทียม ลั่นดำเนินการเอาผิดหมด ทั้งตัวเล็ก ตัวใหญ่ ทั้งอาญา ทั้งแพ่ง ไม่เอาไว้ ย้ำตามเงิน 2,000 ล้านบาทคืนพร้อมดอกเบี้ย ส่วนคดี ?จำนำข้าว-จำนำมัน? ที่รัฐบาลชุดฝ่ายค้านทำไว้ เสียหายเละเทะ 5 แสนล้าน กับ 3 หมื่นกว่าล้าน ก็กำลังตามคืนอยู่ ไม่มีหยุด ก่อนเชือดนิ่ม ๆ สงสัย ?หูดับ? ที่ไม่เห็นความคืบหน้า   

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยในการชี้แจงการอภิปรายไม่ไว้วางใจของนายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย เรื่องการทุจริตถุงมือยางเทียม ที่ห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชั้น 2 อาคารรัฐสภา ว่า เรื่องที่อภิปรายมา ตนชี้แจงไปชัดเจนแล้วเกือบทั้งสิ้น เพียงแต่ท่านมาเติมว่าตั้งแต่วันที่ท่านอภิปรายถึงวันนี้ไม่มีความคืบหน้า และตนไม่กล้าจัดการอะไรกับประธานบอร์ด ที่ท่านกล่าวหาไม่เป็นความจริง และท่านโกหกกลางสภา แอบอ้างผลงานว่าท่านนำเรื่องไปยื่น ป.ป.ช. และ ป.ป.ช. ไต่สวน 22 รายมีความก้าวหน้าในคดี ป.ป.ช. อันนี้ก็โกหก ไม่จริง ป.ป.ช. ไต่สวน ไม่ใช่เอาสำนวนท่านไปไต่สวน ไต่สวนเพราะองค์การคลังสินค้า (อคส.) ไปยื่นแจ้งให้สอบสวนคดีทุจริต และมีความคืบหน้าคาดว่าอาจจะมีมติชี้มูลเร็ว ๆ นี้ ที่สำคัญไม่ได้เกี่ยวข้องกับตนในแง่ที่ตนจะเป็นผู้ร่วมกระบวนการทุจริต ไม่เคยมีการเรียกตนไปชี้แจง หากเกี่ยวข้องต้องเรียกตนไปชี้แจง ยังไม่เคยมีขอทำความเข้าใจ ที่ท่านกล่าวหาว่าตนเข้าไปเกี่ยวข้องกับการทุจริตไม่จริง ทั้งในที่ลับที่แจ้ง ทั้งเป็นทางการและไม่เป็นทางการ ไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวหรือเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ทันทีที่ทราบเรื่องเข้าไปบริหารจัดการมีความคืบหน้าเป็นลำดับ
         
ทั้งนี้ ภารกิจของ อคส. ในการทวงเงินคืนจากการกระทำการทุจริต ที่ อคส. ต้องเป็นเจ้าของเรื่อง ไม่ได้มีแต่เรื่องถุงมือยาง อย่างน้อยเงิน 3 ก้อนใหญ่ ที่ต้องดำเนินการมีความคืบหน้าทั้งสิ้น คือ 1.ทุจริตถุงมือยาง 2,000 ล้านพร้อมดอกเบี้ย  2.เงิน 504,861 ล้านบาท ที่ อคส. ต้องเรียกค่าเสียหายคืนจากการทุจริตจำนำข้าวสมัยพวกท่านเป็นรัฐบาล ยังไม่จบ ทำไมไม่เห็นทวงว่าช้า เพราะทุกอย่างมีขั้นตอนกระบวนการ ถ้าใครไปทำอะไรนอกกฎหมาย กระบวนการลงโทษผิดขั้นตอนและเป็นช่องว่างให้คนที่กระทำการทุจริตเอ่ยอ้างและลอยนวลได้ในที่สุด และ 3.เงินทุจริตจำนำมันสำปะหลัง คู่แฝดทุจริตจำนำข้าวที่พวกท่านเป็นรัฐบาล ต้องไปทวงเงินคืนมาทั้งหมด 33,000 ล้านบาท
         
สำหรับเงินก้อนที่ 1 ทุจริตถุงมือยาง 2,000 ล้านบาทบวกดอกเบี้ย เกิดขึ้นเพราะอดีตรักษาการผู้อำนวยการ อคส. ทำสัญญาขายถุงมือยาง 125,000 ล้านบาทให้กับ 7 บริษัท จากนั้นทำสัญญาซื้อถุงมือยางกับบริษัท การ์เดียนโกลฟส์ 110,000 ล้านบาท โดยประมาณ ก็เป็นเงื่อนไขหรือจังหวะเบิกเงิน อคส. 2,000 ล้านบาท อ้างว่าจ่ายมัดจำ ซึ่งได้ดำเนินการการเบิกเงินจากบัญชี 2 ก.ย.2563 จากนั้น 10 ก.ย.2563 ผู้อำนวยการคนใหม่เข้ารับหน้าที่ประมาณหนึ่งสัปดาห์ รายงานให้ทราบทันทีว่าพบเงินหายจากบัญชี 2,000 ล้านบาท และวันเดียวกัน ท่านนายกรัฐมนตรีมีคำสั่งย้ายอดีตรักษาการผู้อำนวยการไปอยู่สำนักนายกฯ ทันที ถ้าท่านนายกฯ ละเลย ถ้านายจุรินทร์ละเลย คำสั่งนี้จะมาไหม จากนั้นผู้อำนวยการ อคส. ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง จากนั้น 18 ก.ย.2563 ผู้อำนวยการไปแจ้งความอดีตรักษาการผู้อำนวยการกับพวกกับดีเอสไอ และแจ้งความกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ตรวจสอบเส้นทางการเงินและอายัดบัญชีในทันที จากนั้นผู้อำนวยการ อคส. แจ้งความกับ ป.ป.ช.
         
?ทันทีที่รับเรื่องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และสอบหมดแล้วตั้งแต่เจ้าหน้าที่ตัวเล็กจนตัวใหญ่ถึงผู้อำนวยการ ประธานบอร์ด ไม่เว้นแม้แต่รัฐมนตรีหรือท่านนายกรัฐมนตรี คือ กระบวนการที่ท่านทราบดี จากนั้นกรรมการ ป.ป.ช. มีมติอายัดบัญชี 2,000 ล้านบาท ตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค.2563 มีความคืบหน้าในการตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง อคส. พบการกระทำผิด ชี้มูลความผิด 3 ราย คือ อดีตรักษาการผู้อำนวยการ และเจ้าหน้าที่อีก 2 ราย จากนั้นผู้อำนวยการก็ตั้งกรรมการสืบสวนต่อไปเพื่อลงโทษทางวินัยตามระเบียบ หลังจากที่ท่านอภิปรายทุกอย่างมีความคืบหน้า วันที่อภิปราย ผมยืนยันกับสภาชัดเจนว่าไม่เคยมีส่วนเข้าไปเกี่ยวข้องยุ่งเกี่ยวกับโครงการนี้ หรือการดำเนินการใด ไม่ว่าจะเป็นทางการหรือไม่เป็นทางการทั้งที่ลับที่แจ้ง และได้ชี้ให้เห็นว่าวันนั้นท่านโกหกหลายเรื่องทั้งเก่าหาว่าไม่เคยตั้งกรรมการสอบ และกล่าวหาว่าไม่เคยมีการอายัดเงินก็ไม่จริง ป.ป.ช.อายัดเงินแล้ว ซึ่งเป็นองค์กรอิสระที่กฎหมายรองรับ ที่บอกว่าไม่เคยดำเนินคดีก็ไม่จริงส่ง ปปง. ป.ป.ช.ซึ่งเป็นการเริ่มต้นกระบวนการยุติธรรม และอธิบายไว้ชัดเจนว่าไม่ว่าจะรู้จักใคร ผู้ใหญ่ขนาดไหน รู้จักนายกรัฐมนตรี รู้จักรัฐมนตรี ไม่ได้แปลว่าจะมีอำนาจล้นฟ้า เมื่อไรที่ทำผิดกฎหมายก็ต้องเข้าคุก เรื่องนี้ไม่ยอมไม่ว่าใครทุจริตโครงการนี้ก็ตาม จะจัดการทั้งทางวินัยแพ่ง อาญา จนถึงที่สุด ตราบเท่าที่มีอำนาจหน้าที่ และกฎหมายให้อำนาจ เป็นสิ่งที่ยืนยันผูกพันไว้กับสภาแห่งนี้ และได้ดำเนินการมาโดยต่อเนื่อง?นายจุรินทร์กล่าว
         
นายจุรินทร์กล่าวว่า หลังอภิปรายครั้งก่อน มี 3 เรื่องที่ตนเร่งรัดดำเนินการ คือ คดีแพ่งกับอาญา สั่งการให้ผู้อำนวยการ อคส.คนใหม่ ให้ความร่วมมือกับ ป.ป.ช.ในทุกเรื่อง ปปง.ทุกประการ และติดตามรายงานความคืบหน้าเป็นระยะ และเร่งรัดการลงโทษทางวินัย ใครเกี่ยวข้องให้นำเงิน 2,000 ล้านบวกดอกเบี้ยมาชดใช้ค่าเสียหาย มีความคืบหน้าคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงสรุปผลการสอบวินัยเสร็จ ได้ชี้มูลความผิด 3 ราย มีมติให้ไล่ออกทั้ง 3 ราย ผู้อำนวยการ อคส.ออกคำสั่งไล่ออกตั้งแต่วันที่ 19 ต.ค.2564 จำนวน 2 ราย ส่วนอดีตรักษาการผู้อำนวยการ บังเอิญว่าโดนคำสั่งย้ายไปสำนักนายกจึงถามไปยังกฤษฎีกาเป็นการดำเนินการ กฤษฎีกาตอบว่าอำนาจหน้าที่ในการดำเนินการทางวินัยเป็นหน้าที่ของปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี  เพื่อให้กระบวนการลงโทษถูกต้องตามกฎหมายไม่ถูกโต้แย้งวันหลังให้เป็นโมฆะ โดยให้สามารถนำผลการสอบสวนของ อคส. ไปดำเนินการทางวินัย ให้ถือว่าเป็นการสืบสวนข้อเท็จจริงเบื้องต้นได้ ปลัดสำนักนายกฯต้องตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัยโดยทำตามพระราชกฤษฎีกา ตอนนี้ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรีจบเรื่องวินัยและต้องติดตามต่อไป
         
ส่วนเรื่องละเมิด ติดตามทวงเงิน 2,000 ล้านบวกดอกเบี้ยคืน ใครกระทำความผิดหรือเกี่ยวข้องต้องนำเงินมาชดใช้เพราะเงินหลวงตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้ ต้องไล่เบี้ยจนมีผู้นำเงินมาชดใช้ ตามพ.ร.บ.การรับผิดทางละเมิด ได้มีการแต่งตั้งโดยผู้อำนวยการ อคส. มีรองปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน ผลการสอบออกมาแล้ว มีด้วยกัน 2 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มที่ตั้งสอบแล้วพบเจตนาทำให้รัฐเสียหาย 2.กลุ่มที่กรรมการชี้ว่าประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง เจตนาทำให้รัฐเสียหาย มี 4 รายต้องชดใช้คนละ 400.8 ล้านบาท รวม 1,603 ล้านบาท 4 ราย 3 รายแรก คือ เจ้าหน้าที่ ที่ถูกชี้มูลความผิดทางวินัย และเพิ่มอีกหนึ่ง คือ ประธานบอร์ด วันนี้ชัดเจนว่าประธานบอร์ดก็ถูกชี้ว่าต้องรับผิดชอบชดใช้ความเสียหายด้วย ข้อหาเจตนาทำในข้อหาเจตนาทำให้รัฐเสียหาย 400 ล้านบาทโดยประมาณ 2.กลุ่มที่ประมาทเลินเล่อมี 3 ราย ชดใช้คนละ 133.6 ล้านบาท รวม 400.8 ล้านบาท รวมสองกลุ่มเป็น 2,000 ล้านบาท บวกดอกเบี้ย
         
?ตามกระบวนการของ พ.ร.บ.การรับผิดทางละเมิด เจ้าหน้าที่ของรัฐต้องไปยุติที่กระทรวงการคลัง เป็นผู้ชี้ขาดตามกฎหมาย ได้ส่งเรื่องไปยังกระทรวงการคลังแล้ว ตั้งแต่วันที่ 3 ก.พ.2565 แต่ยังติดประเด็นประธานบอร์ด ไม่ใช่ใครปกป้องแต่ติดข้อกฎหมาย เพราะถ้าไม่เป็นกระบวนการกฎหมาย จะถูกโต้แย้ง ทำให้กระบวนการไม่ชอบ สุดท้ายใครรับผิดชอบค่าเสียหายก็ลอยนวล โดยกรณีประธานบอร์ดมีประเด็นข้อกฎหมายจากผลการสอบให้ชดใช้ค่าเสียหายเป็นไปตามคำสั่งผู้อำนวยการ อคส. แต่ประธานบอร์ดเป็นผู้บังคับบัญชา อคส. ดังนั้น ต้องถามกฤษฎีกา ก็ตอบกลับมาว่า หากพบความผิดทางละเมิดของประธานบอร์ด ให้รัฐมนตรีเป็นผู้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบโดยใช้กรรมการสอบชุดเดิมได้ เพื่อผลสอบจะได้ไม่เกิดความลักลั่น ซึ่งวันที่ 31 พ.ค.2565 ผมลงนามแต่งตั้งกรรมการสอบความรับผิดทางละเมิดประธานบอร์ดเสร็จสิ้นแล้ว ความคืบหน้าคือกรรมการแจ้งข้อกล่าวหาแล้ว ส่วนการไต่สวนของ ป.ป.ช. ทราบจากข่าวสำนักข่าวอิศราเปิดเผยว่าการไต่สวนคดีทุจริตถุงมือยางเสร็จแล้วกำลังเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของกรรมการ ป.ป.ช.ต่อไป ที่มีการกล่าวหาในญัตติว่าตนปล่อยประละเลย ไม่ติดตามแก้ไขปัญหาการทุจริต เพื่อให้มีการชดใช้ความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่รัฐ หรือ อคส. จึงไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ในทางตรงกันข้ามกลับมีความคืบหน้าในทุกกรณีตามขั้นตอนกระบวนการกฎหมาย?นายยจุรินทร์กล่าว
         
นายจุรินทร์กล่าวว่า สำหรับเงินก้อนที่ 2 แม้ท่านไม่ได้ทวงถามความคืบหน้าว่าช้า แต่เรื่องนี้ 10 ปีแล้ว ตนทำต่อเนื่อง การทุจริตจำนำข้าวที่พวกท่านสร้างไว้ ก่อความเสียหายให้ อคส. 504,861 ล้านบาท จนต้องฟ้องเรียกค่าเสียหาย รวม 1,180 คดี ไม่ได้เอาชั่วใส่ใคร ถ้าชั่วจริง ก็ต้องชั่ว การดำเนินการทางกฎหมายต้องเกิด เหมือนทุจริตถุงมือยาง ถ้าทุจริตจริง ก็ต้องจัดการ และเส้นทางการเงินที่ท่านพูดนั้น ป.ป.ช. ดำเนินการ ปปง. ก็เป็นองค์กรตามกฎหมายที่ดำเนินการ ที่ต้องชี้แจงทุจริตจำนำข้าวเพราะท่านเขียนในญัตติกล่าวหาตนว่า มีพฤติกรรมปล่อยปละละเลยไม่ติดตามแก้ไขปัญหาการทุจริตเพื่อให้ชดใช้ความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่รัฐหรือ อคส. ตนกำลังอธิบายว่าติดตามความเสียหายอย่างไรและไม่ได้มีก้อนเดียวเฉพาะถุงมือยาง ยังมีทุจริตจำนำข้าวอีกก้อน เป็นภารกิจต้องติดตาม ซึ่ง 1,180 คดี ความเสียหาย 500,000 กว่าล้านบาท ต้องทุ่มเทกำลังเวลาในการปฏิบัติงานไปใช้กับการดำเนินคดีที่พวกท่านก่อไว้ 10 ปีที่แล้ว คดียังอยู่ในศาลคืบหน้าเป็นลำดับแต่ยังต้องใช้เวลาตามกระบวนการยุติธรรม
         
ส่วนอีกก้อน 30,000 กว่าล้านบาท ทุจริตจำนำมัน สมัยท่านเป็นรัฐบาลเหมือนกัน ตนถึงบอกว่าก๊อปปี้ทุจริตจำนำข้าวมาเลย ไม่ต้องเอ่ยว่ารัฐบาลไหน คือ พวกท่านแล้วกัน ทำ อคส. ขาดทุน 33,000 ล้านบาท ต้องทุ่มเทกำลังฟ้อง ฟ้องแล้ว 164 คดี เรียกค่าเสียหาย 20,065 ล้านบาท ศาลจำคุกแล้ว 26 คดี แต่ยังไม่จบต้องเอาเจ้าหน้าที่ขึ้นศาล เพราะสิ่งที่พวกท่านก่อไว้
         
?ตอนนี้ สั่งเร่งรัดทั้ง 3 ก้อน ไม่ได้เลือกที่รักมักที่ชัง เพราะนี่คือเงินของรัฐ ตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้ ต้องดำเนินการเอาคืน เพราะการเอาจริงเอาจังกับการทุจริตและความไม่โปร่งใสและความโปร่งใสของ อคส. ในยุคนี้ ทำให้คะแนนคุณธรรมและความโปร่งใสของ อคส. กระเตื้องขึ้นเยอะ ยุคท่านได้ไม่ถึง 70 คะแนน ในปี 2563-64 ป.ป.ช. ให้คะแนน อคส. มีคุณธรรมความโปร่งใสและเป็นองค์กรที่เชื่อถือได้ในเรื่องนี้ ปี 2563 ได้ 83 คะแนนระดับเอ ปี 2564 ได้ 93.59 คะแนน ไม่ได้ประเมินเอง แต่ ป.ป.ช. ที่เป็นองค์กรอิสระในการจัดการกับการทุจริตและส่งเสริมความโปร่งใสและคุณธรรมธรรมาภิบาลในการบริหารบอกมา ที่ท่านบอกว่าไม่เห็นความคืบหน้า ท่านหูดับแล้ว เพราะทั้งหมดคือความคืบหน้าของการดำเนินการตามขั้นตอนกระบวนการกฎหมายชัดเจนทุกเรื่องทั้งแพ่ง อาญา วินัยและการหาตัวผู้กระทำผิดมาชดใช้ค่าเสียหาย 2000 ล้านบวกดอกเบี้ย ส่วนถ้าจะส่ง ป.ป.ช. ไม่มีปัญหา ดีจะได้ช่วยกันตรวจสอบการทุจริต ไม่ว่าที่ไหนก็ตามตนพร้อมให้ความร่วมมือท่านไม่ต้องห่วง?นายจุรินทร์กล่าว