ตอบ

Warning: this topic has not been posted in for at least 120 days.
Unless you're sure you want to reply, please consider starting a new topic.
ชื่อ:
อีเมล์:
หัวข้อ:
ไอค่อนข้อความ:

แนบไฟล์:
(Clear Attachment)
(แนบไฟล์เพิ่ม)
Restrictions: 4 per post, maximum total size 192KB, maximum individual size 128KB
Verification:
กรุณาพิมพ์ชื่อนี้ Rakayang เป็น???าษาไทย:

shortcuts: กด alt+s เพื่อตั้งกระทู้ หรือ alt+p แสดงตัวอย่าง


สรุปหัวข้อ

ข้อความโดย: Rakayang.Com
« เมื่อ: สิงหาคม 22, 2014, 03:42:47 PM »

ยางใต้ขู่ม็อบใหญ่-ขีดเส้น 7 วัน จี้ คสช.แก้ราคาดิ่งเจ๊งจริงไม่การเมือง-"ชวน"แนะเลี้ยงโคขุน เสริม


กรุงเทพฯ--22 ส.ค.--มติชนออนไลน์


ชาวสวนยางสุราษฎร์ ยื่นหนังสือถึงนายกฯคนใหม่ และหัวหน้า คสช.เร่งแก้ราคาตกให้ 7 วันก่อนเคลื่อนไหวใหญ่


เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 21 สิงหาคม ได้มีตัวแทนเกษตรกรชาวสวนยางพาราในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี ในนามแนวร่วมเกษตรกรชาวสวนยางพาราบ้านส้องและพันธมิตร นำโดยนายไพโรจน์ ฤกษ์ดี มีอาชีพเป็นเกษตรกรและทนายความกับพวกรวม 6 คนได้เดินทางมายื่นหนังสือเปิดผนึกผ่านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานีถึง พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะ คสช.และว่าที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่ เรียกร้องให้แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกรชาวสวนยางอันเนื่องมาจากราคาตกต่ำอย่างต่อเนื่อง


นายไพโรจน์กล่าวว่า อยากให้เร่งช่วยเหลือแก้ไขปัญหาราคายางพาราตกต่ำเป็นวาระเร่งด่วนที่สุด พร้อมจะรอคำตอบภายใน 7 วันหากไม่ได้รับการเหลียวแล จะรวมตัวเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ ซึ่งขอยืนยันการออกมาเคลื่อนไหวครั้งนี้มาด้วยความบริสุทธิ์ใจเนื่องจากเป็นความเดือดร้อนของพี่น้องเกษตรกรจริงๆไม่มีเกมการเมืองใดๆแอบแฝงอยู่เบื้องหลังหรือพรรคการเมืองใดมาหนุนหลัง


"ตอนนี้ยางพาราแพร่กระจายไปภาคอีสาน ภาคตะวันออกและภาคเหนือ หากแก้ปัญหาทำได้จะเป็นการช่วยเหลือเกษตรได้ทั้งประเทศ หากไม่ทำอะไรเกษตรกรและมวลชนจะพากันออกมาโดยไม่เกรงกลัวอำนาจของ คสช.หรืออำนาจของรัฐบาลอีกต่อไปแล้ว" นายไพโรจน์ กล่าว


ในการนี้นายพิชิต ตู้บรรเทิง หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้เป็นผู้รับหนังสือดังกล่าวโดยรับจะว่าจะนำเสนอไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด และหน่วยเหนือที่เกี่ยวข้องได้รับทราบเพื่อให้ความช่วยเหลือแก้ไขปัญหาตามลำดับขั้นตอนต่อไป


วันเดียวกันที่ตลาดกลางยางพาราสุราษฎร์ธานีที่สหกรณ์สุราษฎร์ธานี (โคออป) อ.พุนพิน มีการประมูลซื้อขายยางพารา ปรากฎว่า ยางแผ่นดิบ เพิ่มขึ้น 18 สตางค์ ได้ราคา ก.ก.ละ 53.25 บาท ตลาดท้องถิ่น ก.ก.ละ 51 บาท น้ำยางสด 49 บาท เศษยาง 21.50 บาท ส่วนที่ตลาดกลางหาดใหญ่ จ.สงขลา ยางแผ่นดิบชั้น 3 ขึ้น 62 สตางค์ ได้ราคา ก.ก.ละ 52.57 บาทและตลาดกลางนครศรีธรรมราช ได้ราคา 52.41 บาท


นายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวในพิธีเปิดงานวิชาการมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) วิทยาเขตสุราษฎร์ธานี ว่า พืชผลสินค้าเกษตรในภาคใต้มีราคาตกต่ำมาก ซึ่งควรที่จะหาวิธีการช่วยเหลือเกษตรกรด้วยให้มีอาชีพเสริม เช่น การเลี้ยงโคขุน ซึ่งจากที่เคยไปพบคนไทยในมาเลเซียแนะนำว่าพื้นที่ภาคใต้มีโอกาสมากการเลี้ยงโคขุนจะง่ายกว่า และทางมาเลเซียรับไม่อั้น


"ที่มาเลเซียเคยเจอปัญหามาก่อนจึงลดพื้นที่การปลูกยาง เพราะไม่มีคนกรีดยาง หลังเริ่มจากมะพร้าวไปปลูกยางพาราแล้วจึงหันไปปลูกปาล์ม วันนี้เขาพัฒนาเรื่องอื่นๆไปเรื่อยๆ เราจึงจำเป็นจะต้องมาไล่ปัญหาเพราะจะต้องทำงานแบบสร้างสรร สำหรับมหาวิทยาลัยอย่าง ม.อ.สุราษฎร์ที่ทำงานวิจัยยางอยู่อาจจะจับมือกับ ม.อ.หาดใหญ่ มาทำเรื่องยางร่วมกัน ใช้ความหลากหลายในทุกวิทยาเขตที่มีอยู่มาช่วยกัน " นายชวน กล่าว








Souce: มติชนออนไลน์