ข้อความโดย: Rakayang.Com
« เมื่อ: พฤศจิกายน 11, 2014, 02:35:56 PM »ถก 3 ชาติแก้ราคาตก ปล่อยกู้กระตุ้นราคายางน้อยแค่ 625 ล้าน
นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยหลังการประชุมคณะอนุกรรมการบริหารการดำเนินงานตามแนวทางพัฒนายางพาราทั้งระบบว่า ได้ติดตามมาตรการพัฒนายางพาราทั้งระบบวงเงิน 5,938 ล้านบาท เพื่อชดเชยดอกเบี้ย เป็นสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำวงเงิน 30,000 ล้านบาท ให้แก่สถาบันเกษตรกรและผู้ประกอบการว่ามีการเบิกเงินจริงเพียง 625 ล้านบาท ถือว่าน้อยมากหากเทียบกับกรอบเงินกู้ที่อนุมัติให้สถาบันเกษตรกร 15,000 ล้านบาท "ที่ตรวจพบคือ สินเชื่อก้อนแรก คือ สินเชื่อเสริมสภาพคล่อง เพื่อรวบรวมยางวงเงิน 10,000 ล้านบาท มีสถาบันเกษตรกร 510 แห่ง แสดงความจำนงขอกู้ 5,063 ล้านบาท แต่ได้รับอนุมัติเงินกู้เพียง 1,335 ล้านบาท ก้อนที่สอง คือ สินเชื่อแปรรูปยางพารา 5,000 ล้านบาท มีสถาบันเกษตรกร 209 แห่ง ต้องการขอกู้ 4,629 ล้านบาท ส่วนก้อนที่ 3 จำนวน 15,000 ล้านบาท สำหรับผู้ประกอบการปรับปรุงเครื่องจักร ซึ่งจะเร่งรัดให้ปล่อยกู้เช่นกัน"
โดยสาเหตุที่กู้น้อยเกินไป เพราะติดค้างหนี้เก่า เมื่อขอสินเชื่อใหม่จากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จึงได้รับอนุมัติน้อย แต่ได้ขอให้ ธ.ก.ส.ทำแผนอนุมัติเงินสินเชื่อรายเดือนมาให้พิจารณาในสัปดาห์นี้ หากเงินถึงมือเกษตรกรน้อยเกินไป การกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นของรัฐบาลจะไม่ได้ผล ทั้งนี้ วันที่ 20 พ.ย.นี้ จะประชุมรัฐมนตรีคณะกรรมการยาง 3 ประเทศ คือ ไทย มาเลเซีย และอินโดนีเซีย ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย เพื่อหามาตรการยกระดับราคายาง โดยอาจใช้มาตรการกำหนดปริมาณสต๊อกยางร่วมกัน (บัฟเฟอร์ สต๊อก) กำหนดราคายางชี้นำตลาดโลก และจัดการผลผลิตยางของ 3 ประเทศ ด้านนายชนะชัย เปล่งศิริวัธน์ ผู้อำนวยการองค์การสวนยาง (อ.ส.ย.) กล่าวว่า ในการประชุม ครม. 12 พ.ย.นี้ จะรายงานถึงการทำสัญญาขายยางพารา 400,000 ตัน ให้แก่บริษัท ไห่หนาน จากจีน.
Souce: เว็บไซต์ไทยรัฐ
นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยหลังการประชุมคณะอนุกรรมการบริหารการดำเนินงานตามแนวทางพัฒนายางพาราทั้งระบบว่า ได้ติดตามมาตรการพัฒนายางพาราทั้งระบบวงเงิน 5,938 ล้านบาท เพื่อชดเชยดอกเบี้ย เป็นสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำวงเงิน 30,000 ล้านบาท ให้แก่สถาบันเกษตรกรและผู้ประกอบการว่ามีการเบิกเงินจริงเพียง 625 ล้านบาท ถือว่าน้อยมากหากเทียบกับกรอบเงินกู้ที่อนุมัติให้สถาบันเกษตรกร 15,000 ล้านบาท "ที่ตรวจพบคือ สินเชื่อก้อนแรก คือ สินเชื่อเสริมสภาพคล่อง เพื่อรวบรวมยางวงเงิน 10,000 ล้านบาท มีสถาบันเกษตรกร 510 แห่ง แสดงความจำนงขอกู้ 5,063 ล้านบาท แต่ได้รับอนุมัติเงินกู้เพียง 1,335 ล้านบาท ก้อนที่สอง คือ สินเชื่อแปรรูปยางพารา 5,000 ล้านบาท มีสถาบันเกษตรกร 209 แห่ง ต้องการขอกู้ 4,629 ล้านบาท ส่วนก้อนที่ 3 จำนวน 15,000 ล้านบาท สำหรับผู้ประกอบการปรับปรุงเครื่องจักร ซึ่งจะเร่งรัดให้ปล่อยกู้เช่นกัน"
โดยสาเหตุที่กู้น้อยเกินไป เพราะติดค้างหนี้เก่า เมื่อขอสินเชื่อใหม่จากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จึงได้รับอนุมัติน้อย แต่ได้ขอให้ ธ.ก.ส.ทำแผนอนุมัติเงินสินเชื่อรายเดือนมาให้พิจารณาในสัปดาห์นี้ หากเงินถึงมือเกษตรกรน้อยเกินไป การกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นของรัฐบาลจะไม่ได้ผล ทั้งนี้ วันที่ 20 พ.ย.นี้ จะประชุมรัฐมนตรีคณะกรรมการยาง 3 ประเทศ คือ ไทย มาเลเซีย และอินโดนีเซีย ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย เพื่อหามาตรการยกระดับราคายาง โดยอาจใช้มาตรการกำหนดปริมาณสต๊อกยางร่วมกัน (บัฟเฟอร์ สต๊อก) กำหนดราคายางชี้นำตลาดโลก และจัดการผลผลิตยางของ 3 ประเทศ ด้านนายชนะชัย เปล่งศิริวัธน์ ผู้อำนวยการองค์การสวนยาง (อ.ส.ย.) กล่าวว่า ในการประชุม ครม. 12 พ.ย.นี้ จะรายงานถึงการทำสัญญาขายยางพารา 400,000 ตัน ให้แก่บริษัท ไห่หนาน จากจีน.
Souce: เว็บไซต์ไทยรัฐ