ผู้เขียน หัวข้อ: ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 9 ธันวาคม 2568  (อ่าน 69 ครั้ง)

Rakayang.Com

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 90445
    • ดูรายละเอียด

***ภาวะตลาดน้ำมันน้ำมัน WTI ปิดลบ 63 เซนต์ ตลาดกังวลอุปทานล้นตลาดโลก

ข่าวต่างประเทศ Wednesday December 10, 2025 07:54 ?สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์ก ปิดลบในวันอังคาร (9 ธ.ค.) โดยได้รับแรงฉุดจากผลิตภัณฑ์น้ำมันสำเร็จรูป ขณะที่เทรดเดอร์กำลังรอข้อมูลที่คาดว่าจะเผยให้เห็นระดับปริมาณน้ำมันดิบส่วนเกิน

ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 63 เซนต์ หรือ -1.07% ปิดที่ 58.25 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 55 เซนต์ หรือ -0.88% ปิดที่ 61.94 ดอลลาร์/บาร์เรล

ผลิตภัณฑ์น้ำมันสำเร็จรูปเคยเป็นปัจจัยบวกที่ช่วยหนุนราคาน้ำมันดิบในปีนี้ แต่ความอ่อนแอที่เกิดจากดีมานด์ในช่วงนี้เริ่มกลายเป็นปัจจัยลบท่ามกลางการคาดการณ์อย่างกว้างขวางว่าจะมีอุปทานส่วนเกินเข้าสู่ตลาด โดยนักลงทุนบางส่วนกำลังเทขายสัญญาผลิตภัณฑ์ดังกล่าว ซึ่งอาจทำให้ราคาเหวี่ยงแรงขึ้น

เทรดเดอร์กำลังจับตามองรายงานจากองค์การพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) และกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) ที่จะเผยแพร่ในสัปดาห์นี้ รวมถึงผลประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันพุธ (10 ธ.ค.) ตามเวลาสหรัฐฯ ขณะที่สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) เปิดเผยว่า ผลผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ จะทำสถิติสูงสุดที่ 13.61 ล้านบาร์เรลต่อวันในปีนี้ ซึ่งยิ่งเพิ่มความกังวลเรื่องอุปทานล้นตลาด

ด้าน IEA เคยคาดการณ์ว่าจะมีน้ำมันส่วนเกินสูงเป็นประวัติการณ์ในปีหน้า และปริมาณน้ำมันดิบที่ขนส่งข้ามมหาสมุทรก็กำลังเพิ่มขึ้น โดยนักวิเคราะห์มองว่า เหตุผลเดียวที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ไม่ลดลงเร็วและลึกกว่านี้ คือการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ที่เกี่ยวข้องกับบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของรัสเซีย

***ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดบวก $18.5 นลท.ระวังการซื้อขายก่อนประชุมเฟด

ข่าวต่างประเทศ Wednesday December 10, 2025 08:16 ?สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเล็กน้อยในวันอังคาร (9 ธ.ค.) โดยการซื้อขายเป็นไปอย่างระมัดระวัง เพราะนักลงทุนรอดูผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) รวมถึงสัญญาณเรื่องการผ่อนคลายนโยบายการเงินในปี 2569

ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 18.5 ดอลลาร์ หรือ 0.44% ปิดที่ 4,236.2 ดอลลาร์/ออนซ์

คณะกรรมการเฟดมีกำหนดแถลงมติการประชุมในวันพุธที่ 10 ธ.ค.ตามเวลาสหรัฐฯ โดยนักลงทุนให้น้ำหนัก 90% ในการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมครั้งนี้ ขณะเดียวกันมีการคาดการณ์ว่า การประชุมครั้งนี้จะเป็นการประชุมที่กรรมการเฟดมีความที่ขัดแย้งกันมากที่สุดในรอบหลายปี

นอกเหนือจากผลการประชุมเฟดในวันพุธนี้แล้ว นักลงทุนยังรอดูถ้อยแถลงของเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า รวมทั้งจับตารายงานคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) ของเจ้าหน้าที่เฟด และตัวเลขประมาณการเศรษฐกิจ ซึ่งได้แก่ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) อัตราว่างงาน และอัตราเงินเฟ้อ

นักวิเคราะห์มองว่า หากมีความเป็นไปได้ว่าเฟดอาจจะหยุดพักวงจรการลดดอกเบี้ย สิ่งนี้อาจจะกดดันราคาทองคำได้ โดยราคาทองคำอาจจะหลุดต่ำกว่าระดับ 4,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เมื่อวงจรการผ่อนคลายนโยบายการเงินที่เริ่มต้นในปี 2567 เริ่มแผ่วลง

ทั้งนี้ ราคาทองคำปรับตัวขึ้นมาแล้วประมาณ 60% ในปีนี้ โดยมีปัจจัยหนุนมาจากการที่ธนาคารกลางแห่เข้าซื้อทองคำ และเงินทุนที่ไหลเข้าสู่กองทุน ETF อย่างต่อเนื่อง แม้ราคาจะปรับตัวลดลงจากจุดสูงสุดในช่วงปลายเดือนต.ค. แต่ก็ยังได้รับแรงสนับสนุนจากความคาดหวังว่าสหรัฐฯ จะมีการผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติม โดยนักวิเคราะห์ประเมินว่า ทองคำจะยังคงทำผลงานได้ดี เนื่องจากธนาคารกลางต่าง ๆ ถือครองทองคำมากกว่าพันธบัตรรัฐบาล


***ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดลบ 179 จุด นักลงทุนจับตาประชุมเฟด

ข่าวต่างประเทศ Wednesday December 10, 2025 07:32 ?สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันอังคาร (9 ธ.ค.) ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ได้เริ่มการประชุมนโยบายการเงินครั้งสุดท้ายของปี 2568 โดยนักลงทุนต่างคาดการณ์กันอย่างกว้างขวางว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกครั้งในวันพุธนี้ (10 ธ.ค.)

ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 47,560.29 จุด ลดลง 179.03 จุด หรือ -0.38%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,840.51 จุด ลดลง 6 จุด หรือ -0.09% อย่างไรก็ดี ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 23,576.49 จุด เพิ่มขึ้น 30.58 จุด หรือ +0.13%

ในส่วนของดัชนี S&P500 นั้น หุ้น 6 กลุ่มปิดบวก นำโดยกลุ่มพลังงานและกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น ซึ่งเพิ่มขึ้น 0.69% และ 0.38% ตามลำดับ ขณะที่กลุ่มที่ปรับตัวลงหนักคือกลุ่มสุขภาพและกลุ่มอุตสาหกรรม ซึ่งลดลง 0.98% และ 0.73% ตามลำดับ

นักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงคาดว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% โดยล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 88.6% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25%

นอกจากนี้ ตลาดยังจับตาการเปิดเผยตัวเลขตำแหน่งงานว่างประจำเดือนต.ค.ที่ล่าช้าจากกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ โดยรายงานตัวเลขตำแหน่งงานว่างอยู่ที่ 7.67 ล้านตำแหน่ง สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 7.2 ล้านตำแหน่ง สะท้อนว่าความต้องการแรงงานยังคงแข็งแกร่ง

ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ปรับขึ้นสู่ระดับ 4.18% จาก 4.15% ก่อนการเปิดเผยตัวเลขดังกล่าว ซึ่งสร้างแรงกดดันต่อหุ้นเล็กน้อย

สำหรับความเคลื่อนไหวในแวดวงธนาคาร หุ้น JPMorgan Chase ร่วงลงถึง 4.66% ซึ่งเป็นปัจจัยฉุดดึงดัชนีดาวโจนส์ หลังแมริแอนน์ เลค ซีอีโอฝ่ายธนาคารเพื่อผู้บริโภคและชุมชนของเจพีมอร์แกน เชส ได้ออกมาเปิดเผยว่า สภาพแวดล้อมทางธุรกิจ "ดูเปราะบางขึ้นเล็กน้อย"

ในฝั่งของเทคโนโลยีนั้น หุ้น Alphabet Inc. ปรับตัวขึ้น 1.07% แม้กูเกิล (Google) ถูกสหภาพยุโรป (EU) สั่งเปิดการสอบสวนเรื่องการผูกขาดทางการค้า โดยพุ่งเป้าไปที่การที่กูเกิลนำคอนเทนต์ออนไลน์ไปใช้พัฒนาปัญญาประดิษฐ์ (AI)

ขณะเดียวกัน หุ้น Home Depot ผู้ค้าปลีกสินค้าปรับปรุงบ้าน ปรับตัวลดลง 1.33% หลังบริษัทฯ เปิดเผยประมาณการทางการเงินเบื้องต้นสำหรับปีงบประมาณ 2569 ที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ แต่หุ้น CVS Health Corp. ปรับตัวขึ้น 2.23% หลังจากที่เครือข่ายร้านขายยาแห่งนี้ปรับเพิ่มคาดการณ์รายได้ตลอดทั้งปี

หุ้น Paramount Skydance ปิดบวก 0.48% และหุ้น Warner Bros. Discovery ปิดบวก 3.78% โดยปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากวันจันทร์ ท่ามกลางข่าวพาราเมาท์ สกายแดนซ์ ยื่นข้อเสนอซื้อกิจการแบบไม่เป็นมิตร (Hostile Bid) มูลค่ามหาศาลกว่า 1.084 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อเข้าครอบครองวอร์เนอร์ บราเธอร์ส ดิสคัฟเวอรี ตัดหน้าคู่แข่งสำคัญอย่างเน็ตฟลิกซ์